หน้าแรก ข่าวประชาสัมพันธ์ เหยื่อแก๊งจำนำทองปลอมเตือน แก๊งจำนำทองปลอมอาละวาดหนัก ล่าสุดพบยังก่อเหตุพื้นที่สกลนคร

เหยื่อแก๊งจำนำทองปลอมเตือน แก๊งจำนำทองปลอมอาละวาดหนัก ล่าสุดพบยังก่อเหตุพื้นที่สกลนคร

501
0
แบ่งปัน

 จากกรณีนาย กฤษ เทียนใหม่ และนาง อนัดดา เทียนใหม่ สองสามีภรรยา เจ้าของห้างทองนิตเทียน  นำทองปลอมกว่า  376 บาท  พร้อมวงจรปิด ว่าช่วงที่ทองขึ้นนั้นได้มีกลุ่มมิจฉาชีพนำทองปลอมชุบเงินแบบหนาสลับเปลี่ยนกันมาจำนำที่ร้านทองนิตเทียน ที่เขต สภ หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นเวลารวม 1 เดือนกว่า เสียหายเงินกว่า 9 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น         

https://youtu.be/TTfYTrVKG1Y

 ล่าสุดวันนี้ (17ส.ค.63 ) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถาม นางสาว อนัดดา เทียนใหม่ เจ้าของห้างทองนิตเทียน 1 ในเหยื่อแก๊งจำนำทองปลอมในเมืองพัทยา เปิดเผยว่า หลังจากมีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น พบขณะนี้มีผู้ประกอบการร้านทองในเขตพื้นที่เมืองพัทยาที่ถูกขบวนการมิจฉาชีพแก๊งนี้ลอกจำนำทองปลอม ได้ติดต่อมาเพื่อสอบถามแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยล่าสุดมีร้านทอง 4 ราย ในเขตพื้นที่เมืองพัทยาและจังหวัดสกลนคร อีก 1 ราย ที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งจำนำทองปลอม ส่วนในเรื่องของคดีตอนนี้ทางตำรวจจับผู้ร่วมขบวนการได้แล้ว 1 คน และอยู่ในขั้นตอนการขยายผลจับกุม เบื้องต้นทราบว่าผู้ร่วมก่อเหตุได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทำให้รู้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว 4-5 คน แต่ก็ยังต้องติดตามตัวอยู่เพราะยังไม่ทราบว่าหนีไปกบด่านอยู่ที่ไหน       

ทั้งนี้อยากจะขอเตือนให้เพื่อน ๆ กลุ่มผู้ประกอบการร้านทองเช็คทองให้ระเอียดกว่าทุกครั้ง เพราะลักษณะทองปลอมที่มิจฉาชีพแก๊งนี้ผลิตมาคล้ายกับทองจริงมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้เลย ถ้าหากไม่เฉือนเนื้อทองดู หลังจากนี้ทางร้านจะตรวจเช็คให้ละเอียดมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาแม้จะไม่สามารถเฉือนทองลูกค้าได้เพราะเกรงว่าจะเสียหาย จึงขอฝากไปยังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะตอนนี้เริ่มมีผู้เสียหายเยอะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมไปถึงร้านที่ยังไม่ได้ตรวจเช็คเพราะอาจจะยังไม่รู้ ส่วนเพื่อนของตัวเองที่อยู่จังหวัดสกลนครก็โดนแล้วเหมือนกันไม่ใช่แค่ในพื้นที่พัทยาอย่างเดียว       ขณะที่นายกฤษ เทียนใหม่ สามีผู้เสียหาย เปิดเผยอีกว่า สำหรับการออกมาเปิดเผยกับสื่อในครั้งนี้ ความเสียหายที่ทางร้านจะได้รับอาจจะเกิดขึ้นบ้างในเรื่องของความน่าเชื่อถือ แต่อยากให้เรื่องนี้จบที่ร้านของตัวเอง ไม่อยากให้ผู้ประกอบการรายอื่นต้องมาเจอแบบเดียวกับที่ร้าน อยากให้มีการเฝ้าระวังกันมากขึ้นกว่าเดิมและร้านทองทั่วประเทศไทยต้องลุกขึ้นมาหารือกันบ้างแล้วว่าจะทำอย่างไรกันต่อจากนี้ น่าจะมีมาตรการป้องกันจากทางสมาคมให้ผู้ประกอบการบ้าง   

 ด้านนาย สามารถ แจ่มเจริญ ผู้ประกอบการร้านทองแม่มาลี 36-11 ต.หนองปรืออ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า สำหรับกรณีขอตัวเองนั้น เหตุเกิดตั้งแต่ราคาทองยังไม่ได้ขึ้นสูงมาก เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จนถึงประมาณวันที่ 11 มิถุนายน ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพจะส่งคนมาเรื่อย ๆสลับหน้ากันมา บางทีมาตอนเช้า ตอนบ่ายเป็นอีกคน ช่วงเย็นก็เป็นอีกคน ด้วยความที่ทองมันดูเหมือนจริงมากหัวตะขอหัวจรวจก็เป็นของจริงและมิจฉาชีพกลุ่มนี้ทำการชุบทองมาหนามาก ตัวก็ได้ถามถึงบัตรประชาชนแล้วก่อนรับจำนำแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงโดยอ้างว่าลืมนำมาทุกครั้ง ซึ่งในส่วนของตนรับจำนำทองปลอมมาน้ำหนักรวมทั้งสิ้น 54 บาท เสียเงินไปประมาณ 1100,000 บาท ระยะเวลารวมกันประมาณ 10 วัน และมารู้อีกที่ว่าเป็นทองปลอมในวันที่ตัดของเพื่อนำไปส่งที่ร้านส่งย่านเยาวราชให้เข้าสู้ขบวนการหลอมจึงทำให้รู้ว่าเป็นทองปลอมก็เลยนำมาตรวจที่ร้านอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ     

หลังจากทราบว่าถูกหลอกก็ได้ทำการแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน แต่ก็ยังไม่ได้นำเสนอออกสื่อใด ๆเพราะหวังว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาอีกครั้งตนจะได้ให้ตำรวจจับตัวไว้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ทราบว่าผู้ประกอบการร้านทองรายอื่นจะโดนเหมือนกับตัวเอง โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าทองปลอมชุดนี้ ปลอมได้เหมือนมากซึ่งมีส่วนผสมของทองจริงอยู่ด้วย แม้กระทั่งในเรื่องของน้ำหนักทองทางร้านไม่สามรถดูออกเลย ถ้าไม่ได้ทำการเฉือนทอง ซึ่งก็ไม่สามารถทำได้หากลูกค้านำมาเพื่อจำนำเพราะถ้ามันชำรุดหรือเสียหายทางร้านก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบ  จึงอยากจะวอนหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งจับคนร้ายให้สิ้นทั้งขบวนการอยากให้ติดตามตัวไปถึงขบวนการนี้เพราะคิดว่าเป็นช่างทองที่อยู่ในวงการและเป็นมืออาชีพอย่างแน่นนอนเพราะปลอมได้เหมือนมาก