หน้าแรก ข่าวประชาสัมพันธ์ ตร.พัทยา ซ้อมแผนเผชิญเหตุจำลองเหตุคนร้ายปล้นธนาคารกลางเมืองเสมือนจริง

ตร.พัทยา ซ้อมแผนเผชิญเหตุจำลองเหตุคนร้ายปล้นธนาคารกลางเมืองเสมือนจริง

367
0
แบ่งปัน

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 15 ก.ย.63 พ.ต.ท.นิทัศน์ แหวนประดับ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา พร้อมกำลังตำรวจสายตรวจและตำรวจชุดสืบสวน โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา ร่วมกันฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองพัทยาแบบเสมือนจริงขึ้น โดยจำลองเหตุการณ์ปล้นธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาพัทยาเหนือ (ธ.อ.ส)


โดยมี 2 คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบเลขทะเบียน มาจอดที่หน้าธนาคาร แล้วชายฉกรรจ์ทั้ง 2 คนได้วิ่งตรงเข้ามาภายในธนาคาร ก่อนจะใช้อาวุธปืนพกสั้นสั่งการให้ลูกค้าที่มาใช้บริการหมอบลงกับพื้น จากนั้นคนร้ายได้ใช้ปืนบังคับข่มขู่ให้พนักงานสาวที่หน้าเคาน์เตอร์ฝากเงิน ให้นำเงินสดส่งมอบให้ โดยคนร้ายใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึงหนึ่งนาที ก่อนที่จะรีบวิ่งหลบหนีไปขึ้นรถที่จอดไว้บริเวณหน้าธนาคารขี่หลบหนีไปตามเส้นทางในพื้นที่สภ.เมืองพัทยา


หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ธนาคารได้รีบกดสัญญาณเตือนภัยไปที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อแจ้งเหตุร้าย จากนั้นพนักงานสอบสวน พร้อมตำรวจสายตรวจ ชุดสืบสวน ได้รีบเข้าตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมวิทยุสกัดจับคนร้ายที่ขี่รถหลบหนี และสั่งการให้จุดตรวจทั้งหมดให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดอย่างเร่งด่วน จนเวลาผ่านไป 20 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดจับรถของคนร้ายได้ที่บริเวณปากซอยส้มป่อย พัทยาใต้ ซึ่งห่างจากธนาคารที่เกิดเหตุ 4 กิโลเมตร


พ.ต.ท.นิทัศน์ แหวนประดับ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา ระบุว่า การซักซ้อมแผนเผชิญเหตุดังกล่าวเป็นนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และของตำรวจภูธรภาค 2 เนื่องจากการซ้อมบ่อย ๆ ในทุกภาคส่วนจะได้เกิดความเข้าใจว่าเมื่อเกิดเหตุจริงจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ซึ่งหากมีข้อติดขัดใดเจ้าหน้าที่จะสามารถแก้ปัญหาให้ดีขึ้น ทำให้เกิดความมั่นใจรวมถึงการจับกุม ก็จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมีการซ้อมเช่นนี้เดือนละ 1 ครั้ง และสับเปลี่ยนหมุนเวียนสถานที่ อาทิ ร้านทอง ร้านค้าสะดวก โดยจะมีการแจ้งไปยังประชาชนให้รับทราบว่าจะมีการซ้อมล่วงหน้าป้องกันการตื่นตระหนก


พร้อมกันนี้ พ.ต.ท.นิทัศน์ แหวนประดับ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา ได้ฝากเตือนไปถึงประชาชน ว่าหากต้องประสบเหตุด่วนเหตุร้ายขึ้น ประชาชนควรตั้งสติ และพยายามจดจำรูปพรรณสันฐานของคนร้าย ส่วนเรื่องการสกัดจับนั้นควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ