วันนี้ (31 ธันวาคม 2563) เวลา 13.15 น. พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบหมายให้ พลเรือเอก ธีรกุล กาญจนะเสนาธิการทหารเรือ เดินทางตรวจความพร้อม ของโรงพยาบาลสนาม เพื่อเตรียมการในการรองรับผู้ป่วย COVID – 19 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ ณ โรงพยาบาลสนาม ศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โรงพยาบาลสนามค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และโรงพยาบาลสนาม สนามฝึกกองทัพเรือ บ้านจันทเขลม จังหวัดจันทบุรี ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ในหลายพื้นที่ของประเทศ ในส่วนของกองทัพเรือ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้หน่วยต่างๆของกองทัพเรือเตรียมความพร้อมและดำเนินการ ดังนี้
1. ให้กรมแพทย์ทหารเรือ จัดเตรียมโรงพยาบาลหลัก ประกอบด้วยโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้าและโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สำหรับตรวจวินิจฉัยและรับผู้ป่วยที่มีอาการหนัก พร้อมทั้งเตรียมโรงพยาบาลเฉพาะโรค 2 แห่งคือโรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพและโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ สำหรับผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ นอกจากนั้นยังให้หน่วยกองทัพเรือในพื้นที่ต่างๆ จัดพื้นที่ควบคุมเพื่อเฝ้าระวัง หรือ State quarantine
ดังนี้ 1.) พื้นที่กรุงเทพฯ จัดที่กรมยุทธศึกษาทหารเรือ 2.) พื้นที่สัตหีบ จัดที่อาคารรับรองกองทัพเรือพื้นที่สัตหีบ และ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง 3.) พื้นที่จังหวัดจันทบุรี จัดที่กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด 4.) พื้นที่ทัพเรือภาคที่ 2 จัดที่ฐานทัพเรือสงขลา 5.) พื้นที่ทัพเรือภาคที่ 3 จัดที่ฐานทัพเรือพังงา พื้นที่จังหวัดนราธิวาส จัดที่ค่ายจุฬาภรณ์ พร้อมทั้งจัดเตรียมโรงพยาบาลสนามสำหรับสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข ในกรณีที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และ สนามฝึกกองทัพเรือ บ้านจันทเขลม จังหวัดจันทบุรี **** ซึ่งการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ทั้ง 3 แห่งนี้ จะใช้ในกรณีการระบาดของโรค COVID-19 ในวงกว้าง มีความจำเป็นต้องจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งระบบบริการดูแลรักษาพยาบาล ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (Patients under investigated : PUI) ในกรณีที่เกินขีดความสามารถของโรงพยาบาล ตั้งแต่ การคัดกรองผู้ป่วย การให้การวินิจฉัย การดูแลรักษาแบบ One Stop Services รวมถึงเพื่อให้สามารถรับผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่ได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลแต่ต้องกักกันโรคต่อ หรือผู้ป่วย COVID-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง ไว้ดูแลรักษาแบบผู้ป่วยใน (เฉพาะกรณีที่มีการระบาดเป็นวงกว้าง จำนวนผู้ป่วยเกินขีดความสามารถของโรงพยาบาลหลัก และโรงพยาบาลเฉพาะโรคที่กำหนดไว้)
กองประชาสัมพันธ์สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ