จากกรณีที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ รองหัวหน้าพรรคประ ชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “สาธิต ปิตุเตชะ” ระบุว่า ศบค. ได้เสนขอออนุมัติให้มีการล็อกดาวน์ 5 จังหวัดที่มีตัวเลขการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำนวนมากและมีความเสี่ยงสูง ประกอบด้วย สมุทรสาคร-ชล บุรี-ระยอง-จันทบุรี-ตราด โดยขอให้งดการเดินทางเข้า-ออก และอนุญาตเฉพาะจำเป็น โดยระบุว่าเป็นผลมติจากการเสนอในการประชุม ศบค. โดย 5 จังหวัดที่มีตัวเลขการแพร่ระบาด โควิด-19 จำนวนมากและมีความเสี่ยงสูงนั้น กรณีนี้ย่อมส่งผลกระทบ ทั้งความปกติสุขในชีวิตประจำวัน และทางเศรษฐกิจ ประชาชนอาจไม่สะดวก รวมถึงข้อจำกัดในการเดินทางและใช้ชีวิตปกติ แต่ถ้าไม่เลือกวิธีนี้ แทนที่เราจะได้รับผลกระทบระยะสั้นๆ แต่ถ้าเชื้อระบาดไปไกลในทุกจังหวัด และเอาไม่อยู่ เราจะได้รับผลกระทบระยะยาว และ ลำบากกันยาวนาน รวมถึงอาจโกลาหล กันทั้งหมด ในกรณีที่การระบาดเป็นไปในวงกว้างเกินการควบคุมนั้น
มีรายงานว่าเช้าวันนี้ (5 ม.ค.) คณะกรรมการโรคติดต่อชลบุรี มีคำสั่งให้อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ทำยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มข้น โดยบูรณาการกำลังร่วมกับ สภ.บางละมุง สาธารณสุขอำเภอบางละมุง ฝ่ายกิจการพิเศษ เมืองพัทยา และจิตอาสาอำเภอบางละมุง ตั้งด่านตรวจคัดกรองจำนวน 2 จุด ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญ โดยมีนายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง นายรณกิจ เอกะสิงห์ และ นายมาโนช หนองใหญ่ เข้าร่วมสังเกตการณ์
นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ว่ามีแนว โน้มที่จะสูงขึ้น ดังนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี โดย นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี จึงมีหนังสือสั่งการให้ทุกอำเภอทุกแห่งภายในจังหวัดจัดตั้งด่านคัดกรองเข้มข้น เพื่อควบคุมและตรวจคัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.ชลบุรี รวมทั้งสิ้นจำนวน 47 จุดด้วยกัน โดยอำเภอบางละมุงมี 2 จุด คือบริเวณริมถนนสุขุมวิท หน้าที่ว่าการอำเภอบางละมุง ต.นาเกลือ ฝั่งขาเข้าเมืองพัทยา และหน้าสนามพีระเซอร์กิต ถ.สาย 36 กระทิงราย-ระยอง โดยจะตั้งด่านตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเป็นระยะเวลา 1 เดือน ตั้งแต่เวลา 07.00 – 09.00 และ 16.30 – 18.30 ทั้งนี้ยังคงยืนยันว่าการตั้งด่านครั้งนี้ยังไม่ใช่การล็อคดาวน์ตามที่เป็นข่าว แต่เป็นเพียงการคัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้าพื้นที่ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เท่านั้น ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิ และรณรงค์ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
กรณีสำคัญคือความเข้มงวดกวดขันรถตู้ และรถกระบะที่ขนบรรทุกแรงงานต่างด้าวเป็นหลัก ด้วยการให้ลงจากรถ ถ้าเป็นรถโดยสารส่วนบุคคลก็จะเน้นไปที่รถทะเบียนต่างจังหวัดถือว่าเป็นการเดินทางเคลื่อนย้าย ส่วนที่หน้าสนามพีระเซอร์กิต ถือว่าเป็นพื้นที่สำคัญเช่นกันเพราะเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างชลบุรีและระยอง จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความแข็งขัน เน้นการตรวจสอบรถทุกคันและตรวจเข้มตรวจอุณหภูมิร่างกาย โดยเฉพาะรถเมล์และรถโดยสารสาธารณะ ที่ผู้โดยสารทุกรายจะต้องมาตรวจอุณหภูมิร่างกาย และแสดงบัตรประจำตัวประชาชน รวมทั้งการเน้นย้ำให้สวมใส่หน้ากากอนามัย