สองผัวเมียเจ้าของบ้าน น้ำตาตกถูกเบี้ยวค่าเช่าบ้านหลายหมื่นบาท แถมลูกบ้านสุดแสบทิ้งบิลค่าไฟ 11 เดือน สูญค่าเช่าแถมต้องก้มหน้าใช้หนี้เกือบห้าหมื่นบาท ก่อนการไฟฟ้าเตรียมดำเนินคดี วอนตำรวจตามจับผู้เช่าดำเนินคดี ซ้ำเติมกันช่วงโควิด 19
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายเรืองฤทธิ์ สุริยงคต อายุ 45 ปี และภรรยา ว่าถูกลูกบ้านเบี้ยวค่าเช่าบ้าน และยังทิ้งบิลค่าไฟฟ้ายังไม่ได้ชำระหลายเดือน จนตนเองเกือบจะถูกทางการไฟฟ้าฟ้องร้องดำเนินคดี ซึ่งเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2563 ตนเองและภรรยา ได้ให้คนเช่าบ้านมีการทำสัญญากันอย่างถูกต้องชัดเจนเป็นระยะเวลา 3 ปี มีค่าเช่า 12,00 0 บาท ต่อเดือน แต่เมื่อผู้เช่าเข้าอาศัยแล้วกลับจ่ายค่าเช่าไม่ครบบางเดือนจ่ายเพียง 3,000-5,000 บาทเท่านั้น ตนเองก็เห็นใจเนื่องจากอยู่ในสถานะการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 จึงให้ผู้เช่าทยอยจ่าย แต่ผู้เช่าได้เช่าอยู่ได้เพียง 1 ปีเท่านั้น ก่อนเก็บข้าวของย้ายออกไป แต่ก็ยังชำระค่าเช่าไม่ครบเป็นเงินกว่าหกหมื่นบาท พยายามทวงถามแล้วแต่ก็ติดต่อไม่ได้
ซึ่งหลังจากที่ผู้เช่าย้ายหนีออกไปแล้วนั้น ตนเองเข้าไปตรวจสอบบ้านที่ปล่อยให้เช่า พบว่ามีความทรุดโทรมอย่างหนัก ที่อึ่งไปกว่านั้นคือไปค้นเจอบิลค่าไฟฟ้า ที่ค้างชำระถึง 11 เดือน มูลค่า 48,765.90 บาท ขณะที่การไฟฟ้าเตรียมจะดำเนินการฟ้องร้องกับเจ้าของบ้าน ตนเองได้ไกล่เกลี่ยขอผ่อนชำระกับการไฟฟ้า เมื่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ว่าทำไมถึงปล่อยให้ค้างได้ถึง 11 เดือน ก็ได้รับคำตอบว่าเป็นช่วงโควิดไม่มีมาตรการเก็บหม้อมิเตอร์หรือตัดไฟ ซึ่งได้เอาเอกสารการเช่าไปชี้แจงแล้ว ว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้ใช้ไฟแต่เป็นผู้เช่าที่พักอาศัยอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าเจ้าของบ้านให้คนเช่าได้เงินก็ต้องไปเก็บกับผู้เช่าเอง หากไม่ชำระก็จะต้องดำเนินคดีกับเจ้าของบ้าน
ทั้งนี้ขอฝากเตือนผู้ที่มีบ้านที่จะปล่อยเช่า ให้ระมัดระวัง เรื่องค่าเช่า สัญญา ค่าไฟฟ้าต่างๆ เพราะตนเองได้เจอกับตนเอง ทั้งค่าเช่าบ้านถูกเบี้ยว และทิ้งบิลค่าไฟฟ้าเกือบห้าหมื่น ไว้ให้เจ้าของบ้านต้องก้มหน้าใช้หนี้ แถมยังเกือบจะถูกดำเนินคดีอีก ซึ่งตอนนี้ได้แจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สุภชาติ วสุสกุลเจริญ พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ แล้ว เพียงหวังจะให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวผู้เช่ารายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย