กรมป่าไม้ขึ้นตรวจสอบติดป้ายสั่งผู้บุกรุก รื้อสิ่งปลูกสร้าง พื้นที่ป่าไม้ ภายใน 7 วัน ลั่นเตรียมหลักฐานดำเนินคดี ชาวบ้านส่งคลิปออฟโรดวิ่งขึ้น ตั้งแคมป์ ย่างหมูกระทะสุดชิล บนยอดเนินเกือกม้า ยอดเขาไผ่ จากกรณีที่พบมีการสร้างห้องน้ำแบบถาวร มีถังน้ำขนาดใหญ่ มีถุงทรายเตรียมไว้ผสมปูน นอกจากนั้นยังพบเตาอังโล่ 1 ใบ และจุดที่มีการก่อกองไฟ และ ติดป้ายบนเขาไผ่โดยนำยางรถยนต์มาเทปูนเป็นฐานป้าย โดยป้ายระบุ “ถึงแล้วนะเนินเกือกม้า เขาไผ่” และ “เขาไผ่เป็นสมบัติของทุกท่าน กรุณารักษาความสะอาดสนับสนุนโดย อู่พิทักชัยและกลุ่ม East Zone” และมีสติ๊กเกอร์กลุ่มต่างๆบนป้ายนั้นด้วย บนบริเวณเขาไผ่ ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 25 มิถุนายน 2564 นายจักรกฤษณ์ แสงกุหลาบ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ชลบุรี 1 ( เขาพริก ) กรมป่าไม้ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ขึ้นตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมนำป้ายประกาศ ระบุ พื้นที่บริเวณนี้ เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าบางละมุง ห้ามเข้าดำเนินการใดๆ ฝ่าฝืนมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตร 54 และมีความผิด ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 และป้ายสั่งรื้อถอน ระบุ พื้นที่บริเวณนี้ เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ การเข้าไปทำการก่อสร้าง หรือดำเนินการใดๆ ต้องได้รับอนุญาติจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 54 พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และตามมาตรา 14 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 จึงให้ผู้บุกรุกรื้อถอนสิ่งก่อสร้างออกจากพื้นที่ภายใน 7 วัน ไปติด ไว้ตามจุดต่างๆที่เห็นได้ชัด บนพื้นที่เขาไผ่ รวมไปถึงตรงจุดที่มีการสร้างสิ่งปลูกสร้าง นายจักรกฤษณ์ แสงกุหลาบ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ชลบุรี 1 ( เขาพริก ) กรมป่าไม้ กล่าวว่า ได้ทำการติดป้ายให้ผู้บุกรุกให้เข้ามาทำการรื้อถอนภายใน 7 วัน หากครบกำหนดแล้วยังพบว่ายังไม่เข้ามารื้อถอนจะรวบรวมดำเนินหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งยังไม่พบผู้มาแสดงตัวเป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้าง แต่ได้มีการเคลื่อนย้ายถังน้ำออกไปแล้วโดยไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนผู้ที่จะขึ้นมาบนพื้นที่เขาไผ่นั้น สามารถขึ้นมาได้ แต่ขึ้นมาเพื่อท่องเที่ยวชมวิวเท่านั้น ห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้าง ห้ามตั้งแคมป์ค้างแรม
ส่วนในกรณีที่มีชาวบ้านนำคลิปกลุ่มออฟโรดหลายคันขึ้นลงเนินเกือกม้าพื้นที่เขาไผ่ และปรากฏภาพกำลังทำการก่อสร้าง สิ่งปลูกสร้าง รวมไปถึงตั้งแคมป์ ก่อกองไฟ ประกอบอาหาร หมูกระทะนั่งกิน และนอนค้างแรม บนยอดเขา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจ้งว่าหากมีหลักฐานชัดเจน จะดำเนินคดีตามกฏหมายอย่างถึงที่สุด