ร้านอาหารปิดตัวด้วยพิษเศรษฐกิจ หลังโควิด 19 ระบาดหนัก ทำสองชีวิต ลุง ป้า ตกงาน ตัดสินใจเดินทางสู้ตายดาบหน้าบ้านเกิด ผิดหวังเข้าพื้นที่สีแดงเข้ม มีมาตรการล็อกดาวน์ สถานีขนส่ง งดเดินทางเข้าออก จำใจกอดเงินค่าตั๋วก้อนสุดท้าย อาศัยปั้มนอนหลบแดด ฝน ไม่อยากฝ่าฝืนกฎหมายรอคลายล็อกค่อยกลับ ชมคนพัทยาใจดีช่วยเหลือ
วันที่ 24 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ในสถานีนำ้มัน ก่อนถึงแยกชัยพฤกษ์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบนายปัญญา ภมรวงษ์ อายุ 54 ปี และน.ส.นิภา ศรีนวล อายุ 62 ปี นั่งพักอยู่ม้านั่งริมทางเดินด้านข้างร้านสะดวกซื้อ มีสัมภาระ กระเป๋า ข้าวกล่อง น้ำดื่ม ยารักษาโรคประจำตัว วางอยู่ นอกจากนี้ยังพบลังกระดาษปูไว้บนพื้น โดยเปิดเผยว่าทั้งคู่เคยทำงานอยู่ในร้านอาหารจังหวัดระยอง ด้วยพิษเศรษฐกิจทรุดตัว หลังมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ทำให้ร้านปิดตัวลง เมื่อตกงานทั้งคู่จึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดในจังหวัดกาญจนบุรี แต่เมื่อเดินทางเข้ามาในจังหวัดชลบุรี ซึ่งทั้งคู่ไม่รู้ว่าเป็นจังหวัดที่ถูกประกาศยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด คือล็อกดาวน์ มีคำสั่งห้ามเดินทางเข้า ออก พื้นที่สีแดงเข้มโดยไม่มีเหตุจำเป็น สำหรับรถโดยสารสาธารณะและการขนส่งสินค้า “งดให้บริการเดินรถเข้า-ออกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด” ทำให้ทั้งคู่ที่ตั้งใจจะมาขึ้นรถไฟที่พัทยาต้องผิดหวัง จึงอาศัยนอนอยู่ริมทาง พร้อมกับเงินค่าตั๋วรถไฟก้อนสุดท้าย แต่ด้วยคนพัทยามีน้ำใจจึงพาเข้ามาหลบแดดหลบฝนอยู่ภายในปั้ม ทั้งยังเอาข้าวกล่อง น้ำดื่มมามอบให้พอได้ประทังชีวิต รอให้พื้นที่คลายล็อกก็จะเดินทางกลับภูมิลำเนา นอกจากนี้ยังได้เปิดเผยอีกว่าทั้งสองไม่มีญาติที่ไหนแล้ว มีลูกคนเดียวก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปแล้ว ลุงก็ป่วยมีโรคประจำตัว ทั้งยังเป็นผู้พิการทั้งขาและทางสายตา หวังว่าหลังจากตกงานจะกลับไปหางานทำที่บ้านเกิดจังหวัดกาญจนบุรี แต่มาติดล็อกดาวน์ที่พัทยา ก็ต้องรอจนกว่าจะคลายล็อก ไม่อยากฝ่าฝืนกฎหมาย โชคดีที่มาเจอคนพัทยาใจดี ให้การช่วยเหลือคนเฒ่าคนแก่ ซึ่งทั้งคู่อยู่ตรงนี้ในพื้นที่ปั้มหลบแดดฝนก็ดีใจแล้ว ไม่ต้องการให้ลำบากใคร แค่มีที่หลบนอนรอวันกลับบ้านก็พอ
นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 0909535645,0945565622/086-3684323