หน้าแรก ข่าวกีฬา ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบเครื่องหมายความสามารถการกีฬา ของกองทัพเรือ ประจำปี 2564 พร้อมเงินรางวัลพิเศษ ให้แก่ น้องแต้ว อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร สีสอนดี นักกีฬาเหรียญทองแดงกีฬาโอลิมปิก...

ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบเครื่องหมายความสามารถการกีฬา ของกองทัพเรือ ประจำปี 2564 พร้อมเงินรางวัลพิเศษ ให้แก่ น้องแต้ว อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร สีสอนดี นักกีฬาเหรียญทองแดงกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 32 เป็นกรณีพิเศษ

431
0
แบ่งปัน

วันนี้ (26 สิงหาคม 2564) เวลา 09.00 น. พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องหมายความสามารถการกีฬาของกองทัพเรือ ประจำปี 2564 พร้อมเงินรางวัลพิเศษ ให้แก่ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร สีสอนดี นักกีฬามวยสากลหญิงทีมชาติไทย เป็นกรณีพิเศษ ณ ห้องรับรอง กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย พลเรือเอก วศินสรรพ์ จันทวรินทร์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ/ประธานกรรมการบริหารสวัสดิการกีฬากองทัพเรือ พลเรือโท รณรงค์ สิทธินันทน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน

พลตำรวจโท ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อุปนายกสมาคม/ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค/ผู้จัดการทีม พลเรือตรี ดุลยพัฒน์ ลอยรัตน์ เจ้ากรมสวัสดิการทหารเรือ/ ประธานกรรมการกีฬามวยกองทัพเรือ และ พลเรือตรี ธวัชชัย ม่วงคำ หัวหน้าสำนักงานบริหารสวัสดิการกีฬากองทัพเรือ ร่วมพิธี เพื่อเป็นเกียรติและขวัญกำลังใจแก่น้องแต้ว ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง มวยสากลหญิง รุ่นน้ำหนัก 60 กิโลกรัม จากการเข้าร่วมแข่งขันกีฬากีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32
โอกาสนี้ผู้บัญชาการทหารเรือได้สวมเสื้อเบลเซอร์ ให้แก่ น้องแต้ว ซึ่งตามระเบียบกองทัพเรือ ว่าด้วยเครื่องหมายความสามารถการกีฬา ประเภทนักกีฬาชั้น 1 นั้น นักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก จะได้รับเครื่องหมายความสามารถการกีฬา ประเภทนักกีฬาชั้น 1 (เสื้อเบลเซอร์) ซึ่งเป็นเครื่องหมายความสามารถสูงสุดด้านกีฬาของกองทัพเรือ นับได้ว่าเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งของนักกีฬา ในสังกัดกองทัพเรือ ในการที่ได้สร้างชื่อเสียงและเกียรติภูมิให้แก่กองทัพเรือ และประเทศชาติ


นอกจากนั้นในส่วนของเงินรางวัลที่มอบให้แก่อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพรฯ ในครั้งนี้ประกอบด้วย เงินรางวัล 40,000 บาท และเงินเพิ่มพิเศษรายเดือนเดือนละ 5,000 บาท โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์การเสนอขอเลื่อนยศและการให้รางวัลพิเศษแก่นักกีฬากองทัพเรือเป็นกรณีพิเศษ ตามที่กองทัพเรืออนุมัติเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2550 ที่ระบุไว้ว่า ” ในส่วนของนักกีฬาที่ได้รับเหรียญทองแดงจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก จะได้รับเงินรางวัลจากสวัสดิการกองทัพเรือ จำนวน 40,000 บาท และ เงินค่าตอบแทนรายเดือนจากกองทุนพัฒนากีฬากองทัพเรือ เดือน 5,000 บาท จนกว่าจะเกษียณอายุราชการ บำเหน็จ 2 ขั้นและการเลื่อนยศ” ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวชื่นชมในความสำเร็จของแต้ว ซึ่งนับเป็นการสร้างชื่อเสียง รวมถึงเกียรติประวัติให้แก่ครอบครัว ประเทศชาติ และกองทัพเรือ เป็นอย่างมาก โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า

“กีฬาเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะพัฒนาคนให้มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ มีสมรรถภาพทางกายและทางจิตใจที่เข้มแข็งสมบูรณ์ ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 32 ที่ผ่านมานี้ นักกีฬาทีมชาติไทยได้ทำหน้าที่ของตนอย่างดีเยี่ยม ในการแสดงออกถึงความเป็นนักสู้ ผู้มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ซึ่งถือได้ว่าเป็นความสำเร็จและมีความสำคัญยิ่งกว่าผลของการแข่งขัน ผมขอชื่นชมน้องแต้ว และนักกีฬาทุกท่าน ที่เสียสละเวลาและความสุขสบายส่วนตนตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก ซึ่งผลจากความมุ่งมั่นตั้งใจเหล่านั้น ทำให้ท่านทั้งหลายได้ก้าวสู่ความสำเร็จ ในการนำชื่อเสียงและเกียรติประวัติ มาสู่ประเทศชาติและราชนาวี ทั้งจะเป็นแรงผลักดันให้ท่านตั้งใจฝึกซ้อมพัฒนาทักษะทางการกีฬาของตนเองต่อไป”

ในส่วนของความคืบหน้าการบรรจุ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพรฯ เพื่อเข้ารับราชการในกองทัพเรือตามข่าวที่เคยออกมาก่อนหน้านี้นั้น พลเรือเอก วศินสรรพ์ฯ เปิดเผยว่า อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพรฯ สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีจาก คณะศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตสุโขทัย และกำลังรออนุมัติการสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท จากคณะศึกษาศาสตร์ เอกสังคมศาสนาและวัฒนธรรม วิทยาลัยทองสุข ซึ่งตามหลักเกณฑ์การขอเลื่อนยศและเลื่อนฐานะตามลำดับชั้นนั้น ในส่วนของผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือคุณวุฒิปริญญาตรีขึ้นไป ให้เสนอขอปรับวุฒิ และแต่งตั้งยศตามคุณวุฒิที่สำเร็จการศึกษา ซึ่งตามหลักเกณฑ์จะเสนอเข้ารับการบรรจุในระดับสัญญาบัตร ได้รับการแต่งตั้งยศเป็น “เรือตรี” โดยในขณะนี้กองทัพเรือ ได้บรรจุ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพรฯ ในตำแหน่ง “อาจารย์พละศึกษา แผนกปกครอง วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ” โดยในขณะนี้ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพรฯ อยู่ในระหว่างเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร ซึ่งเมื่อจบหลักสูตรแล้วจึงจะสามารถเข้ารับการ ประดับยศ เรือตรี ต่อไป

ในขณะที่ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพรฯ กล่าวว่า “ความสำเร็จของแต้วในวันนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่รับการสนับสนุนจากหลาย ๆ ฝ่าย ทั้งสมาคมมวยสากลฯ การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองทัพเรือ ที่นับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นในชีวิตการรับราชการ และได้เปิดโอกาสให้แต้วได้ทำตามความฝัน ซึ่งแม้จะไม่เป็นไปตามความฝันในครั้งนี้ แต่อีกฝันหนึ่งของแต้ว ที่กำลังจะกลายเป็นความจริง ก็คือการได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นทหารเรือ สุดท้ายนี้ แต้วต้องขอขอบคุณ ท่านผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ให้การสนับสนุนและให้รางวัลด้วย การให้บรรจุเข้ารับราชการเป็นทหารเรือเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต โดยในขณะนี้แต้วกำลังเข้ารับการศึกษาอบรมในหลักสูตรข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร รุ่นที่ 34 ร่วมกับเพื่อน ๆ อีกเกือบ 50 คน โดยในช่วงแรกจะเป็นการเรียนออนไลน์ และช่วงหลังจะเป็นการฝึกที่

โรงเรียนนายเรือ เพื่อให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษามีความเป็นทหารทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงได้รับความรู้
และประสบการณ์ต่าง ๆ จากครูผู้สอน เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานตามหน้าที่ของแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขอสัญญาว่าพร้อมที่จะสู้ใหม่อีกครั้งในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส อย่างแน่นอนค่ะ”