เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 พ.ต.อ.เมฒาวิศ ประดิษฐ์ผล รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี รรท.ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.สุรเดช นามโยธา รองผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา บุกเข้าจับกุมร้าน สกาย เม้าเท่น แหลมบาลีฮาย พัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศกว่า 100 ชีวิต กำลังนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้องเพลง โยกตัวตามจังหวะของดนตรี พร้อมนักร้องขับกล่อมอย่างเพลิดเพลิน บางโต๊ะนั่งสูบบารากู่ ควันขโมงด้วยความสำราญใจ
เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบโดยสั่งระงับการแสดงดนตรี พร้อมสั่งให้นักท่องเที่ยวทั้งหมดสวมหน้ากากอนามัยทันที เนื่องจากสถานที่นี้มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นแหล่งแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ด้วยจำนวนคน ควันจากบารากู่ บุหรี่ รวมไปถึงบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ หรือบุหรี่ไฟฟ้า จากการตรวจพบว่าที่แก้วเครื่องดื่มถูกพันด้วยกระดาษทิชชูตบตาเจ้าหน้าที่ จากนั้นได้ให้ทางร้านเช็คบิลแล้วเชิญลูกค้าทั้งหมดออกจากร้าน
เบื้องต้นได้ควบคุมตัวผู้ดูแลร้านดังกล่าวพร้อมของกลาง ซึ่งมีเตาบารากู่ซึ่งผิดกฎหมาย ที่ลักลอบจำหน่ายอยู่ภายในร้าน จำนวน 2 ชุด บิลจำหน่ายสุราและเบียร์ จำนวน 54 ใบ ส่งพนักงานสอบสวนแจ้ง 4 ข้อกล่าวหา เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต ลักลอบจำหน่ายบารากู่โดยไม่ได้รับอนุญาต และฝ่าฝืนคำสั่งคณะควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมาย
อย่างไรก็ตามร้านดังกล่าวถูกจับมาแล้วหลาย ครั้ง เป็นการกระทำผิดฝ่าฝืนคำสั่งคณะควบคุมโรคติดต่อ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ก็ยังไม่มีคำสั่งเสนอให้ปิดบริการ มิหน่ำซ้ำยังกระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไม่หวั่นเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง จนได้รับสมยานาม ร้านเส้นใหญ่ ของเมืองพัทยา ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีการเสนอสั่งปิดหรือไม่ หรือจะยังคงต้องอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการทางกระบวนการทางกฎหมายของสภ.เมืองพัทยาต่อไป
