จากกรณีที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯตรวจพบลูกช้างป่าเพศเมีย อายุประมาณ 4 เดือน เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 64 ติดบ่วงเชือกดักสัตว์ของพรานป่าขณะเดินเข้าหากินในพื้นที่ป่าอุทยาน อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี จนขาหน้าด้าน ขวาถูกบ่วงรัดจนเกือบขาด ขณะที่ต้นขาด้านซ้ายพบรอยคล้ายกระสุนปืนอีกกว่า 10 นัด ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกเขา 15 ชั้น อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ได้ประสานทีมสัตว์แพทย์เข้ามาให้การช่วยเหลือ ก่อนจะนำตัวลูกช้างมารักษาและพักฟื้น ณ สวนนงนุช พัทยา จ.ชลบุรี โดยตั้งชื่อว่า “ฟ้าใส” ซึ่งที่ผ่านมาทีมสัตว์แพทย์ ได้ดำเนินการตัดขาขวาที่ถูกบ่วงรัดจนเกือบขาดออกไปแล้ว
ซึ่งล่าสุดได้รับแจ้งว่า พังฟ้าใส ได้เสียชีวิตแล้วเมื่อเวลา 21.45 น. ด้วยอาการท้องเสียอย่างรุนแรง โดย พังฟ้าใส เริ่มมีอาการ กินนมน้อย ท้องเสีย ไม่ค่อยมีแรง เป็นรวดเร็วมากทางทีมแพทย์ได้ช่วยกัน ให้น้ำเกลือ สารอาหาร ยาปฏิชีวนะ ยาบำรุง โปรไบโอติก และออกซิเจน และงดทำแผลก่อน 1 วัน จากนั้น พังฟ้าใส เริ่มไม่ค่อยมีแรงอีกครั้ง ซึม อุณหภูมิร่างกายตก เลยต้องห่มผ้า ประคบร้อน โดยมีทีมสัตว์แพทย์ได้ดูแลอย่างใกล้ชิดแต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตพังฟ้าใสไว้ได้ โดยทางอุทยานนำโดยนายรวมศิลป์ มานะจงประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่ อนุรักษ์ที่2 พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยาน ทีมสัตว์แพทย์ และเจ้าหน้าที่สวนนงนุชพัทยา พร้อมด้วยควาญช้างได้ร่วมมาดูศพพังฟ้าใสด้วยอาการเศร้าเสียใจ โดยเฉพาะควาญช้าง เจ้าหน้าที่สวนนงนุช เจ้าหน้าที่อุทยาน และทีมสัตว์แพทย์ ที่ดูแลพังฟ้าใส
นายสัตวแพทย์เผด็จ ศิริดำรง สัตวแพทย์ประจำสวนนงนุช กล่าวว่า สำหรับการเสียชีวิตของพังฟ้าใสที่ได้รับบาดเจ็บมาอย่างหนักและเรื้อรัง จากนั้นได้นำมารักษาที่นี่และฟื้นฟูบาดแผลซึ่งก็เริ่มมีอาการดีขึ้น แต่มีปัญหาเรื่องนม ซึ่งนมจากแม่ช้างนั่นไม่เพียงพอ ซึ่งจะดีกว่านมผงช้างทั่วไป แต่เนื่องจากต้องรักษาหลายเดือนโดยพยายามขอปางช้างอื่นก็ไม่มีซึ่งก็พยายามประคองอาการให้ถึงเดือนหน้าเพราะช้างสวนนงนุชจะตกลูกอีก 2 เชือก จะได้นำนมแม่ช้างมาให้พังฟ้าใส ทำให้ภูมิต้านทางน้อยลง มีโรคทางเดินอาหาร ระบบการย่อย ซึ่งอาการพังฟ้าใสนั้นเป็นมาตั้งนานแล้วแต่ก็เป็นๆหายๆซึ่งเราก็พยายามดูแลอย่างใกล้ชิดและดูแลแบบดีที่สุด สำหรับการเสียชีวิตนั้นสรุปว่าเป็นโรคทางเดินอาหารล้มเหลว
นายรวมศิลป์ มานะจงประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่ อนุรักษ์ที่2 กล่าวว่า กรณีพังฟ้าใสเสียชีวิตนั้นทางอุทยานก็จะนำพังฟ้าใสไปที่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน เพื่อไปทำพิธีสงฆ์ผ่าพิสูจน์ฝังลูกช้างป่า โดยทางอธิบดีนั้นมีความห่วงใยการเสียชีวิตในครั้งนี้ซึ่งก็แสดงความเสียใจการเสียชีวิตของพังฟ้าใส ซึ่งทางอุทยานได้ส่งทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่อุทยานคอยดูแลพังฟ้าใสอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด..