หน้าแรก ข่าวประชาสัมพันธ์ พระมหาซดเบียร์ร้านอาหารไม่จ่ายเงิน หนีนอนโรงแรม ก่อนส่งจับสึก

พระมหาซดเบียร์ร้านอาหารไม่จ่ายเงิน หนีนอนโรงแรม ก่อนส่งจับสึก

1084
0
แบ่งปัน

                    เมื่อช่วงกลางดึกเวลา  23.00 น. ของวันที่ 14 ก.พ.65 พ.ต.ท.ไพบูลย์ เลาหะนะวัฒน์ สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีลูกค้ามากินอาหารและสุราไม่ยอมจ่ายเงิน ภายในร้านอาหารซุมแซว พื้นที่อำเภอสัตหีบ ก่อนจะออกจากร้านไป อยู่ภายในห้องพักโรงแรมบูรพารีสอร์ท ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงได้เข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบ ชายดังกล่าวกำลังเปลี่ยนจากชุดเที่ยวเป็นนุ่งห่มจีวรในชุดพระสงฆ์ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดง ตัวขอเข้าตรวจค้น ทราบชื่อในบัตรประชาชน พระมหาสมภพ อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี   ในสภาพเมาสุรา โวยวายใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ  โดยภายในห้องมีเบียร์ที่ดื่มแล้วจำนวน 2 ขวด จึงได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่เจ้าตัวจะรับสารภาพ ว่าดื่มเบียร์ภายในห้องพัก 2 ขวด  และ ดื่มกินเหล้าแล้วไม่ยอมจ่ายเงินที่ร้านอาหารจริง ก่อนจะนิมนต์ พระครูปลัด วินัย ธีรญฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพประสาทเตาถ่าน มาทำการสึก ทราบว่า เป็นพระมหา เปรียญธรรม 4 ประโยค บวชเรียนมาแล้ว กว่า 20 พรรษา แจ่เจ้าตัวไม่ยอมบอกว่าอยู่วัดไหน

   โดย พระสงฆ์รูปนี้  ได้แต่งกายชุดท่องเที่ยวก่อนจะสั่งเบียร์รวม 2 ลัง และอาหาร อีก จนถึงเวลาร้านปิดบริการ 23.00 น.  พนักงานได้ไปแจ้งค่าอาหารและเครื่องดื่มรวมเป็นเงิน 3,025 บาท แต่กลับไม่มีเงินจ่าย ก่อนจะขอไปเอาเงินที่ห้องพักจึงได้ตามไปเอาเงิน เมื่อถึงห้องก็ล็อกประตู ไม่ให้ใครเข้า ก่อนจะรีบเปลี่ยนชุด ไปนุ่งห่มจีวร พร้อมกับปฎิเสธว่าได้ไปนั่งดื่มที่ร้าน ตนจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ  เบื้องต้นไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีค่าอาหารแต่อย่างใด  เมื่อเขาสึกแล้วก็ปล่อยไป

พระครูปลัด วินัย ธีรญฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพประสาทเตาถ่าน เปิดเผยว่า ได้รับการประสานว่า มีพระไปนั่งทานอาหาร แล้วไม่มีเงินจ่าย ในขณะไปถึงที่ร้าน ได้ใส่ชุดของฆราวาสทั่วไป แล้วให้เด็กที่ร้านตามไปเอาเงินที่ห้องพัก ก่อนจะไปห่มจีวร ก่อนจะเดินไปยัง สภ.สัตหีบ ก็พระรูปดังกล่าวนั่งอยู่ในอาการมึนเมา  ก่อนจะสอบถามว่าได้ไปดื่มสุราจริงหรือเปล่า ก็ได้ให้การปฎิเสธ ก่อนจะคลิปวีดีโอให้ท่านดู  สุดท้ายก็ยอมรับสารภาพ และยอมลาสิขาออกไป  ก่อนจะยึดหนังสือสุทธิ ไว้ อยากจะให้ญาติโยม เป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ มีอะไรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ เดียวเจ้าหน้าที่จะประสานมายังคณะสงฆ์ เพื่อเดินทางไปตรวจสอบ  เพื่อลงโทษทางวินัย