วันนี้ 14 ส.ค.65 ที่ศาลาประชาคม หมู่ 7 บ้านหนองหญ้า ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เรือตรีภูรี นีน้อย บิดา นางอัจฉรา นีน้อย มารดา และ นางสาวนิตยา นีน้อย น้องสาว ได้ช่วยกันเคลื่อนย้ายร่าง นายธนกฤต นีน้อย อายุ 36 ปี เหยื่อเหตุการณ์ไฟไหม้ ซึ่งเป็นเจ้าของงานวันเกิด ที่ไปร่วมฉลองกับเพื่อนกว่า 10 คน ในคืนวันเกิดเหตุ ก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลระยอง เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีเพื่อนในกลุ่มรวมผู้ตายเสียชีวิตไปแล้ว 3 ราย ไปประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ยัง เมรุ วัดเขาคันธมาทน์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจท่ามกลาง ครอบครัว ญาติ พี่น้อง เพื่อนๆ ผู้ตาย ร่วมวางดอกไม้จันทน์ แสดงความอาลัยเป็นจำนวนมาก
โดยมีนายยศวัฒน์ ภูวรัตน์เลิศคุณ นายกเทศมนตรีตำบลเกล็ดแก้ว พร้อม พนักงานเทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว ช่วยกันอำนวยความสะดวกเคลื่อนย้ายร่างและจัดการจราจร
โดย นายธนกฤต นีน้อย อายุ 36 ปี ผู้ตายได้เดินทางไปจัดงานวันเกิดที่ผับพร้อมกับกลุ่มเพื่อนรวมสิบกว่าคน โดยจองโต๊ะบริเวณหน้าเวที หลังเกิดเหตุได้ช่วยเหลือตัวเองออกมาได้แต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่กลุ่มเพื่อน เสียชีวิตอีก 2 ราย คือ นายสุรกานต์ เรืองฤทธิ์ อายุ 35 ปี เสียชีวิตในกองเพลิง และนายสุเทพ มงคลแก้ว อายุ 33 ปี เสียชีวิตที่ รพ. ขณะที่เหลือส่วนใหญ่บาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ในกลุ่มเสียชีวิตไปแล้ว 3 คน และยังมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส และ ที่ยังนอนรักษาอยู่ที่ รพ.อีกหลายคน
สำหรับศพ นายธนกฤต นีน้อย อายุ 36 ปี หลังจากเสียชีวิต พบว่าในพื้นที่ อ.สัตหีบ ศาลาสวดศพเต็ม ทำให้ต้องนำร่างไปจัดสวดพระอภิธรรม ยังศาลาประชาคม หมู่ 7 บ้านหนองหญ้า โดย นายยศวัฒน์ ภูวรัตน์เลิศคุณ นายกเทศมนตรีตำบลเกล็ดแก้ว ได้เปิดใช้ศาลาประชาคม ซึ่งเคยเป็นอาคารกองอำนวยการโควิด-19 ประจำหมู่บ้าน แต่เมื่อมีความจำเป็นในเหตุการณ์นี้ ทางเทศบาลจึงจัดให้ เป็นสถานที่สวดอภิธรรมศพผู้เสียชีวิตรายนี้ ซึ่งเป็นลูกบ้านในหมู่บ้านหนองหญ้า พร้อมกับประสานกับทางวัด จัดยืม โลงเย็น อาสนะสงฆ์ ร่วมถึงเครื่องใช้ในพิธีกรรมของสงฆ์ทั้งหมด มาเตรียมไว้ให้ทุกอย่าง โดยเทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว ยังได้อำนวยความสะดวกการจราจร และอื่นๆตามที่ญาติจะร้องขอ ตลอดทุกคืน จนทำการฌาปนกิจศพแล้วเสร็จ
โดยเพจ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี – Chonburi PR ได้สรุปเหตุการณ์ กรณี ไฟไหม้ผับ สัตหีบวันที่ 14 ส.ค .65 เสียชีวิตที่เกิดเหตุ13 ราย บาดเจ็บ 42 ราย รวมเป็น 55 ราย เสียชีวิตภายหลัง ที่ รพ. 5 ราย รวมเสียชีวิต 18 ราย รักษากลับบ้านได้แล้ว 11 ราย ยังคงรักษาที่ รพ. จำนวน 26 ราย แยกเป็นใส่ท่อช่วยหายใจ 9 ราย โดยมีโรงพยาบาลดังนี้ 1. รพ สมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ 1 ราย 2. รพ ชลบุรี 4 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ 2 ราย) 3. รพ.สมเด็จฯ ณ ศรีราชา 2 ราย 4. รพ แหลมฉบัง 1 ราย 5. รพ ม บูรพา 1 ราย 6. รพ ระยอง 2 ราย( ใส่ท่อช่วยหายใจ 1 ราย) 7. รพ บ้านฉาง 1 ราย 8. รพ รามา 1 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ1 ราย) 9. รพ พระมงกุฏ 1 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ 1 ราย) 10. รพ พระปิ่นเกล้า 2 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ 1 ราย) 11. รพ นพรัตน์ 3 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ 1 ราย) 12. รพ เลิศสิน 2 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ 1 ราย) 13. รพ เจริญกรุง 1 ราย 14. รพ สมิติเวช ศรีนครินทร์ 1 ราย 15. รพ จุฬา 1 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ 1 ราย) 16. รพ ภูมิพล 1 ราย 17. รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ 1 ราย และ วันนี้ผู้ป่วยจำหน่ายกลับบ้าน ได้เพิ่มเติมอีกจำนวน 1 ราย รวมเป็น 11 ราย รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า