จากที่มีการดราม่าในเรื่องจุดถ่ายรูปสถานที่ประดิษฐาน พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา หน้าผาเขาชืจรรย์ วัดญาณสังวรารามมหาวรวิหาร หรือที่รู้จักกันในนามแหล่งท่องเที่ยว พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีป้ายบอกชัดเจน เป็มมุมที่ถ่ายรูปองค์พระสวยงามที่สุด แต่มีเสาไฟส่องสว่างมาตั้งบังองค์พระแบบนี้ เมื่อถ่ายรูปแล้ว จะต้องติดเสาไฟต้นนี้ติดภาพมาด้วย
ล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังเทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อเข้าพบนายธนพง โคตรมณี นายกเทศมนตรีต.เขาชืจรรย์และเป็นรองประธานมูลนิธิพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ได้ชี้แจงผ่านสื่อว่า สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการในพระราชดำริฯ กองทัพเรือร่วมกับจังหวัดชลบุรี เป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลบูรณะปรับปรุงทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาทางเทศบาลก็พอจะได้รับข่าวสารอยู่บ้างประปราย เกี่ยวกับปัญหาของเสาไฟฟ้าส่องสว่างในยามค่ำคืนต้นนี้ ที่ไปตั้งอยู่ผิดจุด บดบังทัศนียภาพที่สวยงามองค์พระพุทธรูปแกะสลัก เสียงวิพากวิจารย์นี้จากนักท่องเที่ยวนั้น ทางเจ้าหน้าที่ทหารทื่ดูแลความปลอดภัยความเรียบร้อย ที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว ก็จะได้รับเสียงติงจากนักท่องเที่ยวอยู่เนืองๆ ในส่วนของทางมูลนิธิพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์นั้น ไม่ได้นิ่งดูดาย เคยนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมไปบ้างแล้ว แต่ก็สืบเนื่องด้วยสถานการโรคระบาดโควิด19 ที่ผ่านมา ส่งผลให้วาระการประชุมนี้หยุดชะงักไปชั่วคราว ล่าสุดหลังจากที่ได้รับการติติง เสียงสะท้อนดราม่าจากนักท่องเที่ยวออกมาหนาหูขึ้น ทางมูลนิธิฯจะได้ร่วมกับทางจังหวัดชสบุรี และกองทัพเรือ ในการผลักดันในปัญญานี้เข้าสู่ทื่ประชฺมโดยเร่งด่วน เพราะในการทื่จะต้องขยับเสาไฟฟ้าส่องสว่างต้นนี้ออกนั้น จะต้องใช้งบประมาณในการเคลื่อนย้ายค่อนข้างสูง และจะต้องทำเรื่องขออนุญาติขอการอนุมัติไปทางกรมโยธาฯและผังเมืองของจังหวัดชลบุรี คาดว่าในปีงบประมาณ2568นี้ โครงการขยับย้ายเสาไฟไฮแมสต้นออก น่าจะดำเนินโครงการได้แล้วเสร็จ ในนามของมูลนิธิพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชืจรรย์ และในนามของเทศบาลต.เขาชืจรรย์ ก็ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ให้ข้อคิดข้อเสนอแนะดีๆเข้ามา ทางหน่วยงานของรัฐจะได้เร่งดำเนินการย้ายเสาไฟต้นนี้ออกให้ไวทื่สุด ขอการันตีให้ความเชื่อมั่น ยังไงก็ย้ายออกแน่นอน
