จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับผู้ประกอบการธุรกิจ ได้นำรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าแบบนั่งขับ มาปล่อยเช่าบริการผ่านแอพพลิเคชั่น ไปตั้งตามพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ในพื้นที่เมืองพัทยา โดยเฉพาะถนนเลียบชายหาดพัทยา และถนนพัทยาสายสอง ทั้งนี้ยังพบว่ามีการนำรถสกูตเตอร์ไฟฟ้า ไปจอดไว้ริมถนนแทบสีฟุตปาธสีขาว-แดง บริเวณปากซอย 1 ถนนเลียบชายหาดพัทยานั้น
ซึ่งหลังเป็นข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ตรวจท่องเที่ยวพัทยา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัทที่ดำเนินการนำรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าแบบนั่งขับ มาปล่อยเช่า ที่ บริเวณดั๊กสแควร์ พัทยาใต้ ก่อนจะมีการจัดประชุมหารือหาแนวทางแก้ไขการประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมายกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
โดยเมื่อเวลา 12.30 น. ที่ ห้องประชุม ศปก. สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ศิริชัช หนูเทศ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา นายคำไพร เหลาแสน ปลัดอำเภอบางละมุง พ.ต.ท.ภานุพงศ์ นิ่มสุวรรณ สารวัตรจราจร สภ. เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพัทยา พ.ต.ต.จีรวัฒน์ สุคนธทรัพย์ ผู้อำนวยการส่วนปกครอง และเจ้าหน้าที่เทศกิจ ร่วมประชุมหาแนวทางแก้ไขการประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ใช้บริการและนักท่องเที่ยว โดยมีตัวแทนผู้ประกอบการรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าแบบนั่งขับ มาชี้แจงแนวทางการดำเนินการธุรกิจดังกล่าว
โดยที่ประชุมได้ร่วมกันหารือเกี่ยวกับข้อกฎหมายในการประกอบธุรกิจเช่ารถสกูตเตอร์ไฟฟ้าแบบนั่งขับ ว่าสามารถดำเนินการได้ถูกต้องตามกฎหมายกำหนดหรือไม่ และสามารถจดทะเบียนรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าแบบนั่งขับ กับขนส่งได้หรือไม่ เนื่องจากหากปล่อยให้มีการประกอบธุรกิจดังกล่าวไปแล้ว แต่กฎหมายนไม่รองรับ และมีการนำมาใช้วิ่งบนถนน และเมื่อนักท่องเที่ยวมาใช้บริการและเกิดอุบัติเหตุไม่มีบริษัทประกันดูแล เมื่อเกิดการบาดเจ็บหรือสูญเสียทรัพย์สินและชีวิต หวั่นจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเมืองพัทยาได้ ทั้งนี้จากสอบถามแนวทางการจดทะเบียนรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าแบบนั่งขับ กับเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดชลบุรี สาขาพัทยา ทราบว่า รถที่สามารถนำมาจอดทะเบียนได้จะต้องเป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถพ่วง รถบดถนน รถแทรกเตอร์ และเป็นรถที่มีส่วนควบอุปกรณ์สำหรับรถถูกต้อง ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง และต้องผ่านการตรวจสภาพรถจากนายทะเบียนหรือสถานตรวจสภาพที่ได้รับอนุยาต ซึ่งรถจักรยานยนต์และสกูตเตอร์ ไมได้เป็นรถและมีลักษณะตามที่กฎหมายว่าด้วยรถยนต์กำหนดไว้ จึงไม่สามารถจดทะเบียนได้ ส่วนการนำรถจักรยานยนต์และสกูตเตอร์ไปใช้ในทางสาธารณะนั้นเป็นไปตามพรบ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 สมควรให้เจ้าหน้าที่จราจรหรือเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตามกฎหมายดังกล่าวพิจารณาดำเนินการต่อไป ซึ่งตามพรบ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 ระบุไว้ว่า ผู้ที่ใช้รถโดยไม่จดทะเบียนต้องระวังโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และตามมาตรา 56 ว่าด้วยห้ามมิให้เจ้าของรถหรือคนขับรถยินยอมให้ผู้ซึ่งมีใบอนุญาตขับรถ หรือมีใบอนุญาตขับรถประเภทอื่นที่ใช้แทนกันไม่ได้ เข้ารับรถของตนที่ตนเป็นคนขับ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตร 60 ต้องระวังโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่วมกันสั่งระงับผู้ประกอบการรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าแบบนั่งขับ ไม่ให้มีการปล่อยเช่าแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราว พร้อมสัง่การให้ผู้ประกอบการไปดำเนินการตามขั้นตอนทั้งด้านกฎหมายและพื้นที่ให้บริการให้มีความชัดเจน ก่อนจะมีการนัดประชุมหารือแนวทางการปฏิบัติติให้กับผู้ประกอบการอีกครั้งในวันจันทร์ ที่ 20 พฤษภาคม 2567 ต่อไป
