จากกรณี นางนฤมล คงไทย อายุ 56 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.นาจอมเทียน หลังพบว่ารถ จยย.ถูกคนร้ายขโมยไป พร้อมนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเปิดเผย โดยในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันที่ 30 พ.ค.67 ที่ผ่านมา มีคู่รักชายหญิง 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง เข้ามาภายในหมู่บ้านเอื้ออาทรนาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนขับตรงไปที่ตึก 84 และยกรถจยย.ฮอนด้าคลิก สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน งกน 497 ชลบุรี ก่อนจะขับขี่รถพ่วงข้าง ออกไปทางหน้าหมู่บ้านแล้วหลบหนีออกไป ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด บ่ายวันนี้ 5 มิ.ย.67 พ.ต.อ.วัฒนชัย แสงฤทธิ์ ผกก.สภ.นาจอมเทียน ได้เชิญนางนฤมล คงไทย อายุ 56 ปี ผู้เสียหาย และนายประเวทย์ เกษม อายุ 75 ปี พร้อมภรรยาคู่กรณี ที่ยกรถไป เข้าพบที่ สภ.นาจอมเทียน เพื่อทำการพูดคุยและไกล่เกลี่ย หลังจากที่อีกฝ่ายได้นำรถจักรยานยนต์ มาคืนพร้อมให้เหตุผลว่าได้ยกรถจักรยานยนต์ ไปผิดคัน โดยมีน้องสาว เดินทางมามาร่วมเป็นพยานในครั้งนี้ด้วย
นายประเวทย์ เกษม อายุ 71 ปี ได้เล่าว่า ต้องย้อนกลับไปประมาณหนึ่งเดือนก่อน น้องสาวของตนเอง ที่วันนี้เดินทางมาเป็นพยาน ได้ติดต่อมา และบอกให้ไปเอารถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า คลิก ที่ไม่ได้ใช้งาน จอดทิ้งไว้ที่หน้าตึก 84 พร้อมกับส่งกุญแจรถ จยย.มาให้ จากนั้นในวันที่เกิดเหตุ ตนเองได้ไปเอารถ จยย. ตามที่ได้บอกไว้ เมื่อไปถึงก็ไปพบกับรถ จยย. ฮอนด้าคลิก สีน้ำเงิน-ดำ ที่จอดทิ้งไว้บริเวณด้านหน้าตึก ซึ่งตนเองก็คิดว่าเป็นรถคันของน้องสาวบอกเนื่องจากมีสภาพเก่า และไม่ค่อยได้ใช้งาน ซึ่งตอนแรกตนเองก็ดีใจว่าได้รถจักรยานยนต์ คันใหม่เดี๋ยวจะนำไปต่อพ่วงข้างเพื่อนำมาประกอบขนของไปค้าขาย
จากนั้น ก็ช่วยกันยกรถจยย.ขึ้นรถพ่วงข้างและขับออกมา ผ่านไป 6 วัน ทางลูกได้ติดต่อมาบอกว่ามีคนได้นำภาพตนเองและภรรยา ลักษณะขับรถพ่วงข้าง พร้อมกับระบุข้อความตามหารถจักรยานยนต์หลังถูกขโมยไป ซึ่งตนเองก็ตกใจอย่างมาก จึงได้โทรศัพท์ไปหาน้องสาว ปรากฏว่าได้ยกมาผิดคัน จึงให้ลูกติดต่อไปยังผู้เสียหาย และรีบนำมาคืนที่สภ.นาจอมเทียน หลังจากมีการพูดคุยกันตนเองก็โล่งใจเป็นอย่างมากที่ทางเจ้าของรถได้ยอมความและขายรถให้ในราคา 7,000 บาท
พ.ต.อ.วัฒนชัย แสงฤทธิ์ ผกก.สภ.นาจอมเทียน กล่าวว่า สำหรับเคสดังกล่าว ก็เป็นเรื่องของการเข้าใจผิด เนื่องจากคนที่มาเอารถจักรยานยนต์ ไม่ได้สอบถามสี หมายเลขทะเบียนให้แน่ชัด อีกทั้งยังจอดอยู่ใกล้กันเมื่อมาถึง ก็คิดว่าเป็นรถคันที่ต้องมาเอา จึงยกไปเลยโดยที่ไม่ได้โทรสอบถาม
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาคุย และปรับความเข้าใจกัน ก่อนจะมีการยอมความและพูดคุยจนแฮปปี้ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายคุณลุงที่มายกรถไปก็ขอซื้อรถจักรยานยนต์ ในราคา 7,000 บาท ทั้งนี้อยากจะฝากไปถึงคนอื่นๆ ก่อนที่จะไปเอาอะไรขอให้สอบถามให้แน่ชัดไม่งั้นอาจจะเกิดการเข้าผิดถึงขั้นเป็นเรื่องราวแบบคดีดังกล่าว.