ที่ ศาลาว่าการเมืองพัทยา นายเกียรติศักดิ์ ศรีวงชัย รองปลัดเมืองพัทยา รักษาราชการแทนปลัดเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดการประชุม พร้อมกล่าวให้โอวาทในโครงการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัยแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เมืองพัทยา โดยมี นายณนฤโชติ บุตรดี นิติกรชำนาญการ (นะ-นะ-รึ-โชด) เป็นผู้กล่าวรายงาน และมี นายณัฐวุฒิ เลิศลอย นักกฎหมายกฤษฎีกาชำนาญการพิเศษ ฝ่ายกฎหมายกระบวนการยุติธรรมทางอาญา กองกฎหมายกระบวนการยุติธรรมและ นายกุลศักดิ์ ช่วยชู นักกฎหมายกฤษฎีกาชำนาญการพิเศษ เป็นวิทยากรให้ความรู้ โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมอบรม
นายเกียรติศักดิ์ ศรีวงชัย รองปลัดเมืองพัทยา รักษาราชการแทนปลัดเมืองพัทยา กล่าวว่า ตามที่ราชกิจจานุเบกษาประกาศเผยแพร่พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565 เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ให้เปลี่ยนโทษปรับสถานเดียวให้เป็นโทษปรับเป็นพินัยแทน คือ เงินค่าปรับที่ต้องชำระให้แก่รัฐตามจำนวนเงินที่เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือศาลกำหนด พร้อมกำหนดระเบียบวิธีดำเนินการกับโทษปรับเป็นพินัย อาทิ ขั้นตอนการยื่นคำร้องชี้แจงข้อเท็จจริงการกระทำความผิด ตลอดจนการดำเนินงานชำระเสียค่าปรับ ดังนั้นเมืองพัทยาจึงจัดอบรมซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการปรับเป็นพินัยให้แก่เจ้าหน้าที่เทศกิจ เพื่อให้การปฏิบัติงานสอดคล้องกับข้อกฎหมายนี้ และเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้เมืองพัทยาเล็งเห็นว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 กำหนดให้ “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” คือ เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบการบังคับใช้กฎหมายเป็นผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัยกล่าวคือ เมื่อมีการกระทำความผิดทางพินัยเกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัยมีหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงแจ้งข้อกล่าวหาออกคำสั่งปรับเป็นพินัย ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ(กรณีปฏิเสธหรือไม่ชำระค่าปรับให้ครบภายในกำหนด) ดังนั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัยของเมืองพัทยาที่ได้รับการแต่งตัง ต้องได้รับความรู้ ความเข้าใจอำนาจหน้าที่กระบวนการพิจารณาคดีความผิดทางพิ่นัย เพื่อนำองค์ความรู้ไปปฏิบัติงานได้จริสและถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมายการปรับเป็นพินัช กลุ่มงานกฎหมายได้จัดโครงการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัยแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เมืองพัทยา ขึ้นเพื่อลดความเลื่อมลำทางเศรษฐกิจ
