จากกรณีเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่ามี กลุ่มนักตกปลา เข้าไปวางเบ็ดตกปลาในเขตพื้นที่อภัยทานวัดญาณสังวรารามวรวิหาร เป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีประเด็นในเรื่องที่ เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารเรือได้ตรวจยึดอุปกรณ์กาปลาของกลุ่มวัยรุ่น ที่เข้ามาหาปลาบริเวณดังกล่าว แต่กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นบุกเข้าไปหาเรื่อง ก่อกวน ถึงตู้ปฏิบัติการ ของเจ้าหน้าที่ ยิ่งสร้างความเคลือบแคงสงสัยให้กับประชาชนไปอีกว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นมีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังหรือไม่ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเปิดเผยอีกว่าพบพ่อค้าคนกลาง ผม เข้ามารับซื้อปลา ในพื้นที่เขตอภัยทานหลายร้อยโลขึ้นรถกระบะ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.06 น.วันที่ พระครูวิมลภาวนาทร วิ ฉันทะ สันติปัญโญ เจ้าคณะตำบลห้วยใหญ่ ผู้ช่วยวาสวัดสังวรารามมหาวรวิหาร ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อ่างเก็บน้ำแห่งนี้อยู่ในโครงการพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 9 โดยอนุญาตให้ใช้สอยน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งก่อนหน้าที่ยังไม่ ไม่มีวัด ไม่มีโครงการพระราชดำริ ชาวบ้านก็สามารถเข้ามาหาปลาเลี้ยงชีพได้ เมื่อเกิดโครงการพระราชดำริขึ้นมาแล้ว อ่างเก็บน้ำได้ขยายขึ้น ทางโครงการในพระราชดำริ(ภปร) ร่วมกับชลประทานและหน่วยงานท่องถิ่น รวมถึงวักญาณฯ จึงมีมติให้เป็นเขตอภัยทาน ห้ามจับสัตว์น้ำทุกชนิด โดยมีความหมายว่าห้ามเข้าหาสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นเขตที่หวงห้าม
ซึ่งปลาที่มีคนนำมาปล่อยนั้น ก็ต้องการมีชีวิตรอดเหมือนมนุษย์เรา แต่ชาวบ้านบางรายกลับเข้ามาลักลอบ โดยที่พระ และกรมชลประธานไม่รู้ ซึ่งการที่จะได้รับอนุญาตนั้นไม่ใช่จากบุคคลใดบุคคลหนึ่งจะต้องเป็นการได้รับอนุญาตจากทางวัดหรือกรมชลประทานเท่านั้น ในขณะที่บางครั้ง เรื่องก็มาถึงพระสงฆ์ ก็ได้ตักเตือนไปว่าจับแล้วก็จับไปเพราะอาจจะไม่รู้ แต่หลังจาก เมื่อรู้แล้วก็ขอเถอะอย่าได้ทำกันเลย แต่บางคนก็ไม่ฟัง การกระทำกันถึงขั้นจับไปขาย ซึ่งทางวัดก็ขอให้ผู้ที่คิดอยากจะทำหรือกระทำอยู่นั้น ก็ขอให้เลิกซะ เขาก็รักชีวิตเขาเราก็รักชีวิตเรา เพราะฉะนั้นก็อย่าไปทำ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่เห็นก็อาจจะดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ก็อยากจะขอบิณฑบาตจากทุกๆคนด้วย
ด้านนายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่าหลังทราบเรื่องก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที ซึ่ง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของชลประทาน เพื่อให้เกิดความชัดเจนก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดลงพื้นที่ เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหา เรื่องที่เกิดขึ้นนี้อย่างไร โดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะเร่งแก้ปัญหานี้ให้เร็วที่สุด
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุนั้น ได้นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบซึ่งไม่พบการกระทำผิดแต่อย่างใด ในส่วนของชาวบ้านและผู้ที่มาออกกำลังกายในบริเวณดังกล่าว มองว่าการกระทำของบุคคลเหล่านั้นไม่เหมาะสม ก็ชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่จะมีมาตรการ แก้ไขให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน