หน้าแรก ข่าวอาชญากรรม  ร้องปวีณา!! ลูกสะใภ้สุดช้ำ ร้องแม่ผัวให้ออกมาพูดความจริง หลังลูกสาว 1 ขวบ ดับปริศนา

 ร้องปวีณา!! ลูกสะใภ้สุดช้ำ ร้องแม่ผัวให้ออกมาพูดความจริง หลังลูกสาว 1 ขวบ ดับปริศนา

38
0
แบ่งปัน

เมื่อเวลา 14.00 น. ( 16 ต.ค.67 ) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย นางนัทธมน กิจดำรงกุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ เพื่อติดตามความคืบคดี หลัง นายพล นามสมมุติ อายุ 27 ปี และ นางสาวรัตน์ นามสมสมมุติ อายุ 28 ปี เข้าร้องเรียนกับทางมูลนิธิฯ ว่า “น้องแป้ง” ลูกสาววัย 1 เดือน 25 วัน เสียชีวิตอย่างปริศนา หลังนำไปฝากให้ย่าแท้ๆ กับปู่เลี้ยง ช่วยเลี้ยงดูแค่ 5 วัน จู่ๆ เสียชีวิตมีเลือดออกทางจมูก แพทย์ชันสูตรสาเหตุการตาย “สันนิษฐานสมองได้รับบาดเจ็บ” หลังเกิดเหตุวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ย่าหลบหนีหายตัวไปติดต่อไม่ได้ ขอเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาสอบปากคำหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของลูกสาว

น.ส.รัตน์ เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนกับสามีเพิ่งจะมี “น้องแป้ง” เป็นลูกสาวคนแรกก็รักลูกสุดหัวใจ แต่ด้วยความจำเป็นที่ต้องทำงานกันทั้ง 2 คนเพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูกจึงได้นำน้องแป้งไปฝากให้ นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี แม่ของสามี ซึ่งมีศักดิ์เป็นย่าแท้ๆ กับสามีใหม่ของย่า ช่วยเลี้ยงดูที่บ้านย่าซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ในพื้นที่ หมู่ 2  ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.67 โดยที่บ้านย่าจะมีสามีใหม่ของย่า และน้องสาวพ่อ อาศัยอยู่ด้วย หลังฝากเลี้ยงแบบกินนอนได้ 5 วัน กระทั่งเช้ามืดตี 5 ของวันที่ 5 ต.ค. ย่าได้โทรมาบอกให้พ่อแม่รีบไปดูลูกเพื่อพาไปหาหมอ เพราะลูกสาวเกิดอาการสำลักนมอย่างรุนแรง พ่อแม่ใช้เวลาเดินทาง 10 นาทีก็ไปถึงพบสภาพลูกน้อยตัวเขียว ไม่หายใจ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลบางละมุง หมอได้ปั๊มหัวใจแต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้

น.ส.รัตน์ ยังเล่าต่ออีกว่า หมอระบุว่า เด็กขาดอากาศหายใจก่อนส่งโรงพยาบาลไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง และพบว่ามีเลือดออกทางจมูกด้วย หมอจึงได้เรียกย่าเข้าไปสอบถาม ย่าให้ข้อมูลกับโรงพยาบาลว่า ลูกสาวตื่นมาร้องตอนประมาณตี 1 จึงได้ชงนมให้กินและหลานได้หลับไป กระทั่งตี 5 ตื่นมาเห็นว่า หลานมีอาการชักเกร็งจึงรีบโทรศัพท์มาบอกพ่อแม่ให้ไปดูลูก และโรงพยาบาลยังให้แม่ไปแจ้งความ เพราะหมอสงสัยอาการของลูกที่มีเลือดออกทางจมูก จากนั้นย่าก็อ้างอีกว่า ช่วงเย็นของวันที่ 4 ต.ค. ได้อาบน้ำให้หลานแล้วขาของหลานไปโดนขอบอ่าง ซึ่งแม่คิดว่าถ้าแค่นั้นก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ และจู่ๆ ย่าก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์หายออกจากบ้านจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่กลับมาและติดต่อไม่ได้เลย

ต่อมาทางโรงพยาบาลบางละมุงได้ส่งศพลูกสาวไปชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 8 ต.ค.67 แพทย์ระบุสาเหตุการตาย สันนิษฐานสมองได้รับบาดเจ็บ และแม่ได้รับศพลูกสาวมาทำพิธีทางศาสนาและฝังไว้ที่วัดสโน จ.ลพบุรี ส่วนผลชันสูตรอย่างละเอียดจะต้องรอประมาณ 45 วัน จากนั้น แม่ได้เข้าแจ้งความไว้ที่สภ.หนองปรือ วันที่ 11 ต.ค. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกให้ย่ามาพบ แต่จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีวี่แววจะเจอตัวย่าเลย แม่ไม่เชื่อว่า หากเพียงแค่ย่าให้เด็กกินนมจะทำให้ถึงกับเสียชีวิต และมีเลือดออกที่จมูกเลยหรือ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวย่ามาไขปริศนาการตายของน้องแป้งด้วย

นางปวีณา กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับพ่อแม่น้องแป้งที่ต้องมาสูญเสียลูกสาวที่รักไปด้วยวัยเพียง 1 เดือน 25 วัน พ่อแม่น้องแป้งได้ร้องทุกข์ไปที่มูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ช่วยติดตามคดี หลังรับเรื่องนางปวีณาได้ประสาน พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ และนัดหมายเพื่อจะเดินทางพาพ่อแม่ไปพบ ผกก.ในวันนี้ น้องแป้งยังเล็กมากผู้ที่ดูแลจะต้องรักเอาใจใส่และต้องระมัดระวังอย่างมากที่สุด การเสียชีวิตของน้องแป้งทำให้พ่อแม่คาใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูก โดยแม่ไม่เชื่อว่าหากเพียงแค่ย่าให้เด็กกินนมจะทำให้ถึงกับเสียชีวิตและมีเลือดออกที่จมูกเลยหรือ และทำไมย่าถึงต้องหลบหนีไป จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามผลการชันสูตรศพอย่างละเอียดเพื่อให้ความเป็นธรรมกับเด็ก ทำให้ความจริงกระจ่าง หากมีผู้กระทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามความคืบหน้าคดีนี้กับ พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ ต่อไป

พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ กล่าวว่า ในเบื้องต้น พนักงานสอบสวน มีการสอบปากคำไปแล้ว 3 ปาก คือ พ่อแม่ ของน้องที่เสียชีวิต และ สอบปากคำ นายนนท์ อายุ 59 ปี ปู่เลี้ยง ( สามีคนปัจจุบันของนางสาวเอ ผู้เป็นย่า ) ส่วนสาเหตุการตายของน้อง ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า น้องเสียชีวิตจากการถูกทำร้าย หรือเป็นเพราะอุบัติเหตุ แต่อย่างไรก็ตามตำรวจให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมทั้งจะติดตามเชิญตัวผู้เป็นย่า ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถติดต่อได้ เข้าให้การกับตำรวจ เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริง

นายพล นามสมมุติ ผู้เป็นพ่อ และเป็นลูกชายแท้ๆ ของนางสาวเอ เปิดใจว่า ในคดีนี้ยอมรับว่าหนักใจ อีกฝ่ายก็เป็นแม่แท้ๆ อีกฝ่ายก็เป็นเมียและลูก แต่ ณ.ตอนนี้ ตนเองอยากให้แม่ออกมาอธิบาย และพูดความจริงถึงสาเหตุการตายของน้อง ที่ผ่านมายอมรับว่าตนไม่ค่อยได้คุยกับที่บ้าน เพราะมัวแต่ทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว จนกระทั่งมาเกิดเหตุสลดดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่ออกมาพูดวันนี้ เพียงต้องการให้แม่ออกมาพูดความจริง…