หน้าแรก ข่าวประชาสัมพันธ์ ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา นำนวัตกรรมเชื่อมกล้อง AI เสริมความปลอดภัย พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจ ไทย-เทศ สื่อสารภาษาได้ 13 ภาษา ดูแลนักท่องเที่ยว ช่วงไฮซีซั่น

ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา นำนวัตกรรมเชื่อมกล้อง AI เสริมความปลอดภัย พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจ ไทย-เทศ สื่อสารภาษาได้ 13 ภาษา ดูแลนักท่องเที่ยว ช่วงไฮซีซั่น

11
0
แบ่งปัน

     ที่ โรงแรมสบาย ซาบาน่า พัทยาสาย2 (ซอย2) สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 โดยมี นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวพัทยา (PCBTA) เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นายพรชัย สังข์เอียด ปลัดอำเภอบางละมุง พ.ต.ท.ศุภรัตน์ มีปรีชา สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1  นางอำไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี คณะกรรมการ สมาชิกสมาคมฯ และหน่วยงานภาครัฐ เข้าร่วม

    โดยในที่ประชุมพ.ต.ท.ศุภรัตน์ มีปรีชา สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1  ได้เปิดเผยถึงมาตราการการดูแลนักท่องเที่ยว ว่า ในช่วงที่ผ่านมาตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ได้มีการดำเนินการโครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง ในวอล์คกิ้งสตรีท ซึ่งเริ่มดำเนินการในเดือนพฤศจิกายน 2566 จนถึงปัจจุบัน โดยได้บูรณาความร่วมมือกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในพัทยา เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองพัทยา อีกทั้งยังมีการนำการ์ดจากสถานบริการ และพนักงานเซเว่น ที่ผ่านการอบรมมาเป็นเครือข่ายในการแจ้งเบาะแส ดูแลนักท่องเที่ยว พร้อมเป็นผู้ช่วยพนักงานในการแจ้งหากมีเหตุ

    โดยตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการฯมาจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีเหตุการณ์สถานบันเทิงทำร้ายนักท่องเที่ยว นอกจากนี้สถิติคดีความผิดทางอาญาที่เกี่ยวกับชีวิตร่างกายเมื่อเทียบระหว่างปี 2566 กับปี 2567 พบว่ามีสถิติการทำร้ายร่างกายลดลง โดยปี 2566 มี 10 คดี ปี 2567 มี 5 คดี ทั้งนี้สำหรับมาตรการในการดูแลนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นนั้น ทางตำรวจท่องเที่ยวได้มีการเพิ่มกล้อง AI  หรือ Artificial Intelligence Camera ซึ่งเป็นระบบกล้องวงจรปิดที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในการประมวลผลภาพและวิเคราะห์ข้อมูลตามหมายจับ ซึ่งปัจจุบันตั้งแต่เริม่ทำโครงการกล้อง AI มาสามารถจับผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งหมด 33 ราย ในพื้นที่เมืองพัทยา พร้อมทั้งนี้ยังได้มีการเตรียมอัตรากำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ในการดูแลนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นและกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยา ทั้งสิน 139 นาย ทั้งนี้อาสาสมัครชาวต่างชาติมีทั้งสิ้น 40 นาย สามารถสื่อสารภาษาได้ 13 ภาษา ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้มีการหารือร่วมกับผู้ประกอบการในวอล์คกิ้งสตรีทและเมืองพัทยาในการปรับเปลี่ยนเวลาเปิดถนนวอล์คกิ้งสตรีทจากเดิมเดในช่วงเวลา 04.00น. เป็นมาเป็นเปิดในช่วงเวลา 05.00น. ด้วยช่วงเวลา 04.00 น.เป็นช่วงเวลาที่การจราจรคับคั่งมักมีคนร้ายใช้โอกาสที่การจราจรคับคั่งก่อเหตุ จึงมีแนวคิดร่วมกันในการปรับเวลาเปิดถนนวอล์คกิ้งสตรีท เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและอาชญากรรมในช่วงที่นักท่องเที่ยวเดินทางกลับ หลังสถานบริการปิด อีกด้วย