จากกรณีเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุทะเลาะวิวาท จ๊อบ ผู้ดูแลร้านปืนบีบีกันอัดแก๊ส ถูกนาย แจ๊บ พ่อค้ากัญชา อาวุธมีด และเป็นผู้ดูแลร้านปืนอัดแก๊สอีกร้าน ชกเข้าที่จนได้รับบาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวทั้งสองฝ่าย มาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้แล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลา 04.06 น.วันที่ 17 ธันวาคม 2567 ร.ต.อ.วุฒิกรณ์ ปลอดโปร่ง รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งจากนักท่องเที่ยว ว่าเกิดเหตุทะเลาะวิวาท โดยทั้งสองฝ่ายมีอาวุธ ครบมือ ทั้งมีดและอาวุธปืน กำลังเตรียมที่จะเข้าประจัญบานกัน หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชา พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ให้ทราบ ก่อนนำกำลังรีบไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศอยู่ในอาการแตกตื่นตกใจ หวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนผู้ก่อเหตุหนึ่งฝั่ง ได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้ เหลือเพียงนาย แจ๊บ ได้รับบาดเจ็บถูกคมมีดเข้าที่ช่วงชายโครงซ้าย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าอีกฝ่ายคือคู่กรณีเมื่อช่วงกลางดึก ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้เปรียบเทียบปรับไปแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดฝ่ายคู่กรณีไม่ยอมจบ แต่กลับยกพวกมาหวังล้างแค้นแทน จ๊อบ
ด้านเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนาย แจ๊บ ที่ได้รับบาดเจ็บ จากคมมีดโดยเจ้าตัวให้ข้อมูลว่าคู่กรณีขว้างใส่ เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ส่วนการตรวจค้นในที่เกิดเหตุยังไม่พบอาวุธปืนของทั้งสองฝ่ายแต่อย่างใด และไม่มีรายงานนักท่องเที่ยวหรือชาวบ้านได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด มีเพียงอยู่ในอาการตกใจกลัวเท่านั้น
ในขณะที่นักท่องเที่ยวสามารถบันทึกภาพวินาทีที่ใช้กันสองฝ่ายเตรียมจู่โจมเข้าประจันบาน กันไว้ได้บางส่วน โดยพบในมือของนาย แจ๊บ ถือว่าอาวุธปืน ทำท่าจดๆจ้องๆ กวัดแกว่งปากกระบอกปืนไปมา พร้อมกับคนท้าทายให้คู่กรณีเข้ามา ทำให้นักท่องเที่ยวพี่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างพากันหลบหนีวิ่งหนีตาย นอกจากนี้ยังมีพลเมืองดีคอยห้ามศึกทั้งสองฝ่าย เพราะเกรงว่าจะมีนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ไม่รู้เรื่องโดนลูกหลงไปด้วย
เบื้องต้นพ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสกลุ่มวัยรุ่นของร้านบีบีกันอัดแก๊สทั้งสองร้าน จากพยานแวดล้อมและกล้องวงจรปิด ซึ่งเชื่อว่าสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด รวมถึงการเรื่องพกพาปืนเข้าในแหล่งท่องเที่ยว จะต้องถูกดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด
อย่างไรก็ตามการกระทำของทั้งสองกลุ่ม ถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวโดยตรง รวมถึงเป็นบุคคลอันตรายก่อเหตุโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ซึ่งขัดแย้งกับนโยบายของภาครัฐเป็นอย่างมาก นอกจากนี้จะมีการพิจารณา ในเรื่องของผู้ประกอบการทั้งร้านบีบีการอัดแก๊ส อาวุธมีดต่างๆที่ตั้งขายและเปิดให้บริการในแหล่งท่องเที่ยว ความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร เนื่องจากบุคลากรของร้านมีพฤติกรรมความรุนแรงซึ่งเกรงว่าอาจจะก่อให้เกิด อันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ในอนาคต