หน้าแรก ข่าวอาชญากรรม วินจยย ดอดพบตำรวจจราจรพัทยา ปัดให้สัมภาษณ์นักข่าว พูดสั้นๆ เรื่องแค่นี้เอง

วินจยย ดอดพบตำรวจจราจรพัทยา ปัดให้สัมภาษณ์นักข่าว พูดสั้นๆ เรื่องแค่นี้เอง

14
0
แบ่งปัน

ความคืบหน้ากรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เพจ Facebook  เจ๊ม๊อย v+ ได้ลงภาพพฤติกรรม ของวินรถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งหนึ่งญาติถนนพัทยาเหนือ  ลักษณะพยายามข่มขู่และรีดไถเงินจากคนขับรถแท็กซี่รับจ้าง  พร้อมกับระบุข้อความว่า คุณถามว่า  ”  ทำไมพี่ต้องถ่ายคลิปด้วย  ”  แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรไปเปิดประตูรถ แล้วเช๊คอะไร ? เรื่องมีอยู่ว่า ตอนแรกนั้นน้องผู้หญิงจะนั่งรถทัวร์กลับ กรุงเทพฯ แต่รอบที่เร็วที่สุดเต็มน้องจึงตัดสินใจเรียกรถจากแอปหนึ่งเพื่อกลับกรุงเทพฯ  แต่วินจักรยานยนต์ไม่ยอมให้รถยนต์รับน้องไป แถมยังเรียกเก็บเงินจากคนขับ 300 บาท ทางคนขับยอมจ่าย สุดท้ายน้องผู้หญิงจ่ายคืนให้คนขับ 300 บาท ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยค่ะแบบนี้ดูแล้วไม่โอเค มีสิทธิ์อะไรไปเรียกเงินเขา สิทธิ์อะไรไปเปิดประตูรถ เขา ถนนพัทยาเหนือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ต่อมาเวลา 12.00 น. ( 15 มกราคม 2568 ) พ.ต.ท.ภาณุพงศ์ นิ่มสุวรรณ์ สว.จร.สภ.เมืองพัทยา นำกำลัง พร้อมกับเจ้าหน้าที่กรมขนส่งทางบก ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ หน้าบริษัทรถบัส โดยสารประจำทาง ย่านถนนพัทยาเหนือ ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อติดตามขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่ปรากฏในคลิป เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ปรากฏว่าไม่พบ แต่ไม่พบบุคคลตามที่ปรากฏในคลิป ดังกล่าว แต่มีการประสานให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างทั้ง 2 คน เข้าให้ข้อมูลที่โรงพัก สภ.เมืองพัทยา

แต่ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางออกจากจุดเกิดเหตุไปไม่นาน  ปรากฏว่าได้มีชาย สวมใส่เสื้อวินหมายเลข 2 ( ที่ปรากฏในคลิป ) ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาบริเวณด้านหน้าบริษัทรถบัสโดยสารประจำทาง ผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปพูดคุยเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ปรากฏชายดังกล่าวได้ขึ้นรถจักรยานยนต์แล้วรีบ เร่งเครื่องขี่ออกไปทันที โดยพูดทิ้งท้ายไว้เพียงว่า “เรื่องแค่นี่เอง”

ต่อมา ได้มี วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง 2 คน ทราบชื่อ นาย ธนาวุธ อายุ 39 ปี   นายสมชาย  อายุ 43 ปี   ได้เดินทางเข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งปัดให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว แต่ยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตำรวจและเจ้าหน้าที่ของกรมขนส่งทางบก มีการพูดคุยและว่าตักเตือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นตำรวจมีการแจ้งข้อกล่าวหา “สร้างความเดือดร้อนรำคาญ“ จากนั้นส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป…