เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ต.ค.63 พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ และกำลังชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุม นายสงกรานต์ พรมจรรย์ อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 190 ม.15 ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธปืนคู่อริได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้น แบบลูกโม่ ยี่ห้อ สมิทแอนด์เวสสัน สีดำ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ๊กซ์ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณจุดเกิดเหตุ ที่ บริเวณอู่ต่อเรือ พรอำพรรณ ซ.ทุ่งกลมตาลหมัน 12 ม.8 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 12 ต.ค.63 เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีชายไทยไม่ทราบชื่อ นอนได้รับบาดเจ็บ จากการถูกอาวุธปืนยิง บริเวณหน้าร้านค้าขายของชำ ซ.ทุ่งกลมตาลหมัน 12 ม.8 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ทราบชื่อภายหลังผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อ นายสน กรึ่งสำโรง อายุ 37 ปี ที่อยู่ 75 ม.9 ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี นอนอยู่หน้าร้านค้าขายของชำดังกล่าว มีบาดแผลจากการถูกอาวุธปืนยิง ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนซ้าย ใต้รักแร้ซ้าย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนและสอบปากคำพยานที่เห็นการณ์ ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสงกรานต์ พรมจรรย์ ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงและทะเลาะวิวาทกับนายสน และนายสงกรานต์ ได้ใช้อาวุธปืนออกมายิงจนได้รับบาดเจ็บ พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ จึงได้สอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดพัทยา โดยหมายจับ นายสงกรานต์ พรมจรรย์ ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 265/2563 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2563
จนกระทั่งวันที่ 13 ต.ค. 2563 เวลาประมาณ 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจนสามารถจับกุมตัว นายสงกรานต์ ผู้ก่อเหตุได้ที่บริเวณไร่มันสำปะหลัง ซ.พัฒนาการ 8 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สอบปากคำให้การรับสารภาพว่า ตนเองเคยทำงานกับนายสน และถูกข่มเหงอยู่บ่อยครั้ง โดยก่อนเกิดเหตุได้ทะเลาะวิวาทกับนายสน ผู้บาดเจ็บ และถูกนายสนพยายามใช้อาวุธมีดแทง จึงได้ใช้อาวุธปืนไปยิงนายสน จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมาหลบซ่อน จนมาถูกจับตัวได้ในที่สุด
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร” ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป..