พลเรือโท เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (24 ธันวาคม 2563) เวลา 13.00 น.กองทัพเรือ ได้จัดให้มีการประชุมหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ โดยมี พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขานผู้บัญชาการทหารเรือ/รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล(ศรชล.) เป็นประธานการประชุม ร่วมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม ซึ่งวาระการประชุมที่สำคัญคือ การรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID – 19) ในการนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือได้สั่งการในที่ประชุมให้ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กองทัพเรือ/ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ บูรณาการทำงานร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ในการร่วมสนับสนุนเฝ้าระวังป้องกันและแก้ปัญหาการแพร่ระบาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่แพร่ระบาดจากกลุ่มแรงงานต่างด้าวภาคประมงในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้สั่งการในที่ประชุมสภากลาโหมเมื่อ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้กองทัพเรือได้ดำเนินการตามที่ผู้บัญชาการทหารเรือได้สั่งการในที่ประชุมดังนี้ 1. ให้กรมแพทย์ทหารเรือ จัดเตรียมโรงพยาบาลหลัก ประกอบด้วยโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้าและโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สำหรับตรวจวินิจฉัยและรับผู้ป่วยที่มีอาการหนัก เตรียมโรงพยาบาลเฉพาะโรค 2 แห่งคือโรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพและโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ สำหรับผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ 2. ให้หน่วยกองทัพเรือในพื้นที่ต่างๆ จัดพื้นที่ควบคุมเพื่อเฝ้าระวัง หรือ State quarantine ดังนี้ 1.) พื้นที่กรุงเทพฯ จัดที่กรมยุทธศึกษาทหารเรือ 2.) พื้นที่สัตหีบ จัดที่อาคารรับรองกองทัพเรือพื้นที่สัตหีบ และ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง 3.) พื้นที่จังหวัดจันทบุรี จัดที่กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด 4.) พื้นที่ทัพเรือภาคที่ 2 จัดที่ฐานทัพเรือสงขลา 5.) พื้นที่ทัพเรือภาคที่ 3จัดที่ฐานทัพเรือพังงา พื้นที่จังหวัดนราธิวาส จัดที่ค่ายจุฬาภรณ์ พร้อมทั้งจัดเตรียมโรงพยาบาลสนามสำหรับสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข ในกรณีที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วยศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และ สนามฝึกกองทัพเรือ บ้านจันทเขลม จังหวัดจันทบุรี 3. ให้กรมแพทย์ทหารเรือสนับสนุนการจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ พร้อมอุปกรณ์สำหรับตรวจคัดกรองแรงงานประมง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก (Active Case Finding (ACF) รองรับการตรวจ 2,000 คน ภายใน 5 วัน หรือจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ เพื่อสนับสนุนการตรวจแรงงานภาคประมง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยขอให้พร้อมปฏิบัติเมื่อมีการประสานสั่งการจากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) 4. ให้ ศรชล.ภาคที่ 1 เตรียมการจัดตั้งชุดตรวจ เพื่อสกัดกั้นการเข้า – ออก ราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายและป้องกันการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวทางทะเล ในพื้นที่ ศรชล.จว.สมุทรสาครโดยบูรณาการการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้พร้อมปฏิบัติเมื่อมีการประสานสั่งการจาก ศบค.
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เน้นย้ำให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ประมาท โดยให้มีเครื่องมือป้องกันตัวเอง ในการปฏิบัติระดับต่างๆให้เหมาะสม และให้มีการประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้ และมีส่วนร่วมรับผิดชอบของประชาชนควบคู่กันไป
นอกจากนั้นในส่วนของสถานการณ์มลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับสุขภาพของกำลังพลของกองทัพเรือ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้ กรมแพทย์ทหารเรือ เน้นย้ำและสร้างความตระหนักรู้ รวมทั้งวิธีป้องกันให้กับกำลังพล ตลอดจนให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ตามพื้นที่ต่าง ๆ ยังคงดำเนินการสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในการฉีดพ่นฝอยน้ำในอากาศ หรือฉีดน้ำตามพื้นท้องถนน ตามที่จะได้รับการประสาน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่นละออง บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงท้าย โฆษกกองทัพเรือเปิดเผยว่า ผู้บัญชาการทหารเรือได้สั่งการเพิ่มเติม ในการเพิ่มความเข้มงวด ในการตรวจสอบและคัดกรอง การลักลอบเข้าเมือง ตลอดจนให้หน่วยต่างๆ ระมัดระวังป้องกันในเรื่องของอัคคีภัย ตลอดจนหมั่นทบทวน มาตรการดับเพลิงให้มีความพร้อมอยู่เสมอ การจัดกิจกรรม Big cleaning Day ในทุกเดือน
สำหรับในช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ ซึงมีกำลังพลเดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ขอให้ หน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ และหน่วยเฉพาะกิจกองทัพเรือ กำชับกำลังพลในเรื่องการขับขี่ยานพาหนะ การดื่มสุรา ตลอดจนการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่รัฐบาล และ กองทัพเรือ กำหนดอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการบันทึกสถานที่ที่เดินทางไปแต่ละวันของกำลังพล ทั้งนี้เมื่อกลับจากวันหยุดขอให้หน่วยรวบรวมข้อมูลเก็บไว้ของแต่ละบุคคล เพื่อใช้ในกรณีที่เกิดปัญหาจะได้ติดตามตรวจสอบย้อนกลับได้ง่ายยิ่งขึ้น และให้หน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือหรือหน่วยเฉพาะกิจ ที่ตั้งอยู่เส้นทางหลักจัดตั้งศูนย์บริการประชาชน เพื่อความปลอดภัย ในการเดินทาง โดย ในช่วงท้าย อัญเชิญ พุทธศาสนสุภาษิต ที่สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ประทานให้กับผู้บัญชาการทหารเรือและคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในโอกาสเข้าเฝ้าเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 3 ที่ว่า
รกฺเขยฺย สาธุ ลวณํ โลณตํ ยถา อ่านว่า (รักเขยยะ สาทุง ละวะนัง โลนะตัง ยะถา ) ซึ่งแปลความได้ว่า
“พึงรักษาความดีของตนไว้ดุจเกลือรักษาความเค็ม” เป็นข้อคิดให้แก่กำลังพลในการปฏิบัติงานต่อไป
นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 0909535645,0945565622/086-3684323