จากกรณีที่ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอศรีราชา ได้ส่งเอกสารทวงหนี้ค้างชระค่าไฟฟ้า 12 เดือน เป็นเงินเกือบสามหมื่นบาท ซึ่งเรียกเก็บกับคุณตาวัย 73 ปี สร้างความงุนงง ให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่เคยมีบ้านหรือย้ายที่อยู่ไปอยู่ในบ้านเลขที่ ที่ทางการไฟฟ้าแจ้ง ตามที่ไดนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 20 เมษายน 2564 นางนชนุช สุขเจริญ รองผู้จัดการ บริหาร การไฟฟ้า ส่วนภูมิภาคอำเภอศรีราชา พร้อมด้วยคณะ เดินทางมายังบ้านนายสุชาติ สุรัฒนาวรรณ อายุ 73 ปี ซึ่งตั้งอยู่กลางชุมชนตลาดจีนโบราณชากแง้ว บ้านเลขที่ 413 ม.10 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อเจรจาชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในช่วงแรกทางครอบครัวผู้รับหมาย ได้อธิบายว่าได้แจ้งไปแล้วว่าบุคคลตามใลทวงถามหนี้ค่าไฟฟ้านั้นไม่ใช่นายสุชาติ เพราะไม่เคยโยกย้ายบ้านไปไหน อาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ในตำบลห้วยใหญ่มาหลายสิบปีแล้ว พร้อมแสดงหลักฐานการขอคัดทะเบียนราษฎร์ว่ามีบุคคลที่ชื่อ นามสกุลเดียวกัน อาศัยอยู่ในจังหวัดชลบุรี แต่ตัวเจ้าของบ้านตามที่การไฟฟ้าแจ้งน้นได้เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งเป็นคนละคนกัน
ด้านนางนชนุช สุขเจริญ รองผู้จัดการ บริหาร การไฟฟ้า ส่วนภูมิภาคอำเภอศรีราชา ได้กล่าวขอโทษนายสุชาติ สุรัฒนาวรรณ อายุ 73 ปี และครอบครัวที่เกิดความผิดพลาด ทำให้เกิดความเข้าใจผิด พร้อมชี้แจงสาเหตุจากหนี้ค่าไฟฟ้าของบ้านเลขที่ 133/50 ต.ศรีราชา เป็นหนี้ที่ค้างชำระจริง ซึ่งมีชื่อและนามสกุลเดียวกัน แต่เป็นคนละคนกัน โดยเมื่อเกิดหนี้ค้างชำระทางการไฟฟ้าก็ได้ส่งเอกสารทวงไปยังบ้านเลขที่ที่ใช้ไฟฟ้าจริง แต่ไม่มีการติดต่อชำระ ทางการไฟฟ้าก็ได้ส่งข้อมูลไปขอข้อมูลทะเบียนราษฎร์ที่อำเภอ ก็ได้รับข้อมูลมาว่าเป็นที่อยู่ของคุณลุง การไฟฟ้าก็ทำหนังสือแจ้งมา ซึ่งมาทราบภายหลังว่านายสุชาติ ที่อยู่บ้านเลขที่ตามเอกสารค้างชำระค่าไฟฟ้า ได้เสียชีวิตไปแล้ว เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 ในอายุ 66 ปี
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ตามหลักเกณฑ์ของการไฟฟ้าจะส่งเอกสารไปตามสถานที่ใช้ไฟฟ้าจริง หากไม่มีการตอบกลับมาก็จะส่งหนังสือไปขอข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ว่าบุคคลตามเอกสารอาศัยอยู่ที่ไหน ซึ่งหลังจากนี้ก็จะต้องไปติดตามว่าในบ้านเลขที่หลังดังกล่าวผู้ใดเป็นผู้ใช้ไฟฟ้า เพื่อดำเนินการไปตามกระบวนการของทางการไฟฟ้า ซึ่งกรณีนี้ยังไม่เคยเจอมาก่อน ปกติแล้วผู้ใช้ไฟฟ้าจะสามารถใช้ไฟฟ้าได้หล่ยที่อยู่แล้ว พอตรวจสอบแล้วก็พบว่าเป็นผู้ใช้จริง ก็ต้องขอโทษกับคุณลุและครอบครัว ซึ่งทางครอบครัวก็รู้สึกโล่งใจ และไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด