เมื่อวันที่ 4 ก.พ.65 เวลา 21.00 น. ขณะที่ น.ส.สุปิน เพ่งพิศ อายุ 64 ปี แม่ค้าหมูปิ้ง อยู่ริมถนนสุขุมวิท หน้าร้านสะดวกซื้อ สาขาบ้านเตาถ่าน หมู่ 8 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้ถูกคนร้ายทราบชื่อต่อมา นายภควัต แดนนารัตน์ อายุ 21 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 41/5 หมู 5 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ ได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ วีโว้ สีม่วง – ดำ โดยขี่รถ จยย. วนไปมา 3-4 รอบ เมื่อสบโอกาสและปลอดคน จึงได้จอดรถแล้วออกอุบายทำทีเข้ามาซื้อหมูปิ้ง โดยอ้างกับแม่ค้าว่าลืมโทรศัพท์มือถือมา และขอยืมโทรศัพท์ของแม่ค้าโทรหาแม่บอกว่าจะซื้อหมูปิ้งไปฝากแม่ แม่ค้าหมูปิ้งหลงเชื่อจึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วขอเบอร์เพื่อจะโทรบอกให้
ในขณะที่ น.ส.สุปิน แม่ค้าหมูปิ้งเผลอนาย ภควัต ได้กระชากเอาโทรศัพท์มือถือของ น.ส.สุปิน แม่ค้าหมูปิ้งใส่กระเป๋าสะพายข้างสีดำแล้ววิ่งไปขี่รถ จยย.เพื่อหลบหนี น.ส.สุปิน ตกใจมากจึงร้องขอความช่วยเหลือ พลเมืองดีอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ จึงวิ่งไล่ติดตามพร้อมแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในบริเวณดังกล่าว นำรถสายตรวจออกสกัดจับสุดท้าย นาย ภควัต หนีไม่รอดจนมุมถูกจับกุมตัวได้ บนถนนหน้าตลาดบ้านเตาถ่าน
จากการตรวจสอบ พบของกลางเป็นโทรศัพท์มือของผู้เสียหายอยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งให้ พ.ต.ท.สำราญ สุขโต สารวัตรเวรสอบสวน สภ.สัตหีบ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถาม นายภควัต ผู้ก่อเหตุบอกว่า อยากได้โทรศัพท์มือถือไปขาย เพื่อนำเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยหลายโรคนอนรออยู่ที่บ้าน แต่ทาง ตร.และชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ใจปักเชื่อคำพูดของ นาย ภควัต ที่กล่าวอ้าง เพราะนาย ภควัต มีเงินซื้อของกินราคาแพงจำนวนมากใส่ไว้ที่หน้ารถ จยย. และยังใช้โทรศัพท์มือถือไอโฟน ซึ่งมีราคาแพงนับหมื่นบาท จึงน่าจะเป็นการพูดแก้ตัวให้ดูน่าสงสารมากกว่า และต่อมาได้สอบถามข้อมูลจากคนสนิทของนาย ภควัต ผู้ต้องหาทราบว่านาย ภควัต เป็นหนี้ค่าสักลายตามร่างกายที่ร้านรับสักลาย และถูกเจ้าของร้านตามทวงหนี้อยู่ จึงน่าจะเป็นชนวนของการก่อเหตุ ในครั้งนี้