ระบุ ไม่สังกัดพรรคการเมืองใด พรรคเดียวที่มีคือ ภักดีกับประชาชน ด้านสนธยา ลั่น ผลงานที่ผ่านมาถือเป็นนโยบายเชิงประจักษ์ จับต้องได้ กลุ่มเรารักพัทยาพูดจริง ทำจริง “รู้ที่ไปและไม่เคยลืมที่มา”
นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้สมัครนายกเมืองพัทยา เบอร์ 1 กลุ่มเรารักพัทยา ขึ้นเวทีเวทีปราศรัยใหญ่ ช่วงโค้งสุดท้ายเลือกตั้งเมืองพัทยา บริเวณลานอเนกประสงค์ สวนสาธารณะลานโพธิ์นาเกลือ พร้อมด้วย นายสนธยา คุณปลื้ม ประธานที่ปรึกษากลุ่มเรารักพัทยา และผู้สมัครสมาชิกสภาเมืองพัทยาเบอร์ 1-6 ทั้ง 4 เขต ท่ามกลางมวลชนผู้สนับสนุน แห่ให้กำลังใจ และเข้ารับฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่น
นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้สมัครนายกเมืองพัทยา เบอร์ 1 กลุ่มเรารักพัทยา ได้ชูนโยบาย 4 เป้าหมาย 15 นโยบาย พัฒนา“นาเกลือ “ เป็นแลนด์มาร์คที่ต้องไม่ถูกละเลยของเมืองพัทยา พร้อมสานต่อโครงการ Old Town นาเกลือ ที่ถูกกำหนดเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนควบคู่ไปกับการเป็นตลาดอาหารทะเลชั้นนำ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองอาหารทะเลสด ๆ ในตลาดซีฟู้ดมาร์เก็ต ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อีกทั้งขอเดินหน้าพัฒนาพื้นที่นาเกลือจะกลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่นักเดินทางทั่วโลกต่างอยากมาสัมผัสวิถีชาวประมงพื้นบ้าน สัมผัสธรรมชาติ ป่าชายเลน ศึกษาพันธุ์นกกว่า 100 สายพันธุ์ ที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่เราต้องฟื้นฟู และชูจุดเด่นของนาเกลือที่เรามี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก ทั้งจึงขอเข้ามาสานต่อโครงต่าง ทั้ง 14 โครงที่นายสนธยา คุณปลื้ม อดีตนายกเมืองพัทยาได้ดำเนินการไว้ อาทิ โครงการสะพานประมงพื้นบ้านความยาว 900 เมตร ซึ่งเป็นสะพานทาวเดินชมธรรมชาติตั้งแต่ลานโพธิ์นาเกลืออ้อมสะพานยาว ให้เสร็จสมบูรณ์สวยงามต่อไป
นอกจากนี้การพัฒนาพื้นที่นาเกลือแล้วพร้อมยกระดับการศึกษาโรงเรียนในสังกัดเมืองพัทยาที่ตั้งอยู่ในโซนนาเกลือทั้ง 6 โรงเรียนให้กลายเป็นโรงเรียนต้นแบบระดับประเทศ เหมือนกับโรงเรียนเมืองพัทยา 11 อีกด้วย ส่วนปัญหาการขุดเจาะในเมืองพัทยานั้นไม่สามารถเลิกได้ด้วยเมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ต้องพัฒนาต่อไป การขุดเจาะต่าง ๆที่เกิดขึ้นในเมืองพัทยาเกิดจากการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งไฟฟ้า ประปา ที่มีการเพิ่มประสิทธิภาพในการยกระดับความเจริญก้าวหน้าของเมืองพัทยา ทั้งนี้การลงสมัครนายกเมืองพัทยาตัวเองนั้น “ไม่มีบ้านใหญ่ ไม่มีบ้านเรา มีเพียงบ้านเดียว คือบ้านพัทยา” พร้อมระบุไม่สังกัดพรรคการเมือง มีเพียงแต่พรรคเดียวที่มี คือ “ภักดีกับประชาชน” ทั้งนี้ได้มีการแนะนำตัวว่าที่รองนายกเมืองพัทยา ทั้ง 4 คน ภายใต้สโลแกน รุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ ซึ่งประกอบด้วย 1. นายมาโนช หนองใหญ่ อดีตรองนายกเมืองพัทยา 2.นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ อดีตรองนายกเมืองพัทยา 3.นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ และสุดท้าย น.ส.ทิฐิพันธ์ เพ็ชรตระกูล ต่อด้วยว่าที่ประธานที่ปรึกษา นายวัฒนา จันทนวรานนท์ อดีตรองนายกเมืองพัทยา
ปิดท้ายการปราศรัยจากนายสนธยา คุณปลื้ม ประธานที่ปรึกษากลุ่มเรารักพัทยา โดยกล่าวว่า สาเหตุที่เลือกเวทีลานโพธิ์นาเกลือเป็นเวทีปราศรัยปิดท้ายก่อนการเลือกตั้งเมืองพัทยานั้น เพื่อเปิดใจ เปิดนโยบายที่มีเรื่องราวมีเรื่องจริง มีความจริงที่ทุกคนเห็นอยู่กับตาแล้วจะได้รับรู้ว่าการเสนอตัวของทีมเรารักพัทยามีความจริงใจกับชาวพัทยามากแค่ไหน ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจักษ์ สามารถสัมผัสได้ หากพูดเป็นนโยบายก็เรียกว่า “นโยบายเชิงประจักษ์” “รู้ที่ไปและไม่เคยลืมที่มา” การเข้ามาบริหารเมืองพัทยามาด้วยการเชื้อเชิญจากใครบ้างคน ซึ่งได้พูดมาหลายเวทีและอธิบายให้ทุกคนได้ฟังนั้นคือความจริงของการเข้ามาบริหารเมืองพัทยาตั้งแต่สมัยรัฐมนตรีอิทธิพล คุณปลื้ม มาดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา ที่ได้มีการทำงานและกำหนดนุทธศาสตร์ในการพัฒนาเมืองพัทยาอย่างต่อเนื่องตาม 4 ยุทธศาสตร์ 29 นโยบาย และขมวดยุทธศาสตร์ทั้งหมด เป็นยุทธศาสตร์ที่ 5 ยุทธศาสตร์แห่งการบริหารจัดการ ในการบริหารของตนเอง อาทิ การแก้ปัญหาน้ำท่วม การแก้ปัญหาการท่องเที่ยว ปัญหาการจราจร ที่จอดรถ และล่าสุดโครงการฉีดวัคซีน ให้คนพัทยาได้ฉีดก่อนใคร ซึ่งเป็นผลการทำงานของทีมบริหารพัทยา ของกลุ่มเรารักพัทยา ที่ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ให้เกิดการพัฒนาอย่างรูปธรรม มีผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ทั้งนี้เมืองพัทยาเป็นบ้านหลังใหญ่ เป็นหม้อข้าวใบใหญ่ของโลก ที่รวมคนทั้งโลก จึงไดกำหนดนโยบายในการทำเมืองพัทยาเป็นเมืองน่าอยู่ของคนทั้งโลก นอกจากนักท่องเที่ยวที่มาพัทยาแล้วยังมีคนที่มาจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศไทยมาอยู่ในเมืองพัทยา ทำให้กลุ่มเรารักพัทยา ใช้คำว่า “เรา”ซึ่งหมายถึง “เรา คนพัทยา“จะต้องร่วมกันสร้างและพัฒนาไปด้วยกัน โดย “เรา”ในที่นี้ คือ 1.คนที่เกิดและโตที่นี่ 2.คนที่เกิดที่อื่นและมาย้ายมาอยู่ที่นี่ 3.คือนักท่องเที่ยว และกลุ่มคนที่ลงทุนทำธุรกิจ ทุกคนคือ “เรา”ไม่มีการแบ่งแยกมารวมกันเป็น “คนพัทยา” เพื่อที่จะร่วมสร้างเมืองพัทยาให้เจริญเติบโตต่อไป นายสนธยา คุณปลื้ม กล่าวปิดท้ายการปราศรัย