หน้าแรก Uncategorized โจ๋ โหด ควงปืนตบแฟนสาว หัวแตก ริมหาดพัทยา เพื่อนเผยรอดชีวิตโจ๋ลั่นไกแต่ยิงไม่ออก

โจ๋ โหด ควงปืนตบแฟนสาว หัวแตก ริมหาดพัทยา เพื่อนเผยรอดชีวิตโจ๋ลั่นไกแต่ยิงไม่ออก

394
0
แบ่งปัน

เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 13 มีนาคม 2566 พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนทำร้ายร่างกาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บริเวณชายหาดพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้ ร.ต.อ.อานันท์ มหากิจอัศวกุล รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่สายตรวจเขต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พร้อมประสานเจ้าหน้ากู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบไปตรวจสอบ


ที่เกิดเหตุบนชายหาดพัทยา พบนักท่องเที่ยวอยู่ในอาการแตกตื่น มุงดูผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือน.ส.พรชลิตา ประกายศรี อายุ 20 ปี มีบาดแผลแตกที่หน้าผาก ดั้ง และนิ้วมือข้างขวาหัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาล โดยมีกลุ่มเพื่อนอยู่ในอาการหวาดผวา เล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า ในขณะที่นั่งเล่นกันอยู่ที่ชายหาดพัทยา ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นแฟนของคนเจ็บมากัน 4-5 คน แล้วตะโกนถามว่า จะมาคุยกับแฟนกู มีใครอยากออกตัวมั้ย ทุกคนก็ไม่มีใครยุ่ง


จากนั้นทั้งสองก็มีปากเสียงกัน จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุจึงได้ชักอาวุธปืนออกมา แล้วตีเข้าที่ศรีษะของคนเจ็บ ขณะเดียวกันกลุ่มเพือนได้เข้าไปห้าม ผู้ก่อเหตุก็ลั่นไกใส่ แต่โชคดีที่ปืนยิงไม่ออก หลังก่อเหตุก็พากันเดินไปขึ้นรถจยย.ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะยิงปืนขึ้นฟ้า ประกาศศักดา 1 นัด แล้วพากันขี่จยย.หนีไป ซึ่งทุกคนไม่คิดว่าผู้ก่อเหตุจะกล้ากระทำเช่นนี้ เนื่องจากที่เกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก และยังอยู่ใกล้กับสถานีตำรวจด้วย


ด้านน.ส.พรชลิตา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทะเลาะกัน แต่ก็พยายามคุยกันแล้ว แต่ฝ่ายชายไม่ยอมคุย จึงตัดสินใจบอกไปว่า หากไม่คุยกันให้รู้เรื่องก็คงไม่ไหวแล้ว กระทั่งวันนี้มาเจอกันที่ชายหาดฝ่ายชายก็เข้ามาคุยด้วย แต่ตนเองบอกไปว่าไม่มีอะไรจะคุยด้วยแล้ว สร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายชายเป็นอย่างมาก ฝ่ายชายจึงผลักตนเอง แล้วชักปืนออกมาตบเข้าที่ใบหน้า ตนเองใช้มือกันไว้ทำให้นิ้วมือได้รับบาดเจ็บด้วย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความหวาดกลัวให้กับตนเองเป็นอย่างมาก


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยังพบลูกกระสุนปืนขนาด .38 ม.ม.ตกอยู่ 1 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะวิทยุสกัดจับคนร้ายตามรูปพรรณสันฐานที่ผู้เสียหายแจ้ง พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและตลอดเส้นทางการหลบหนี ซึ่งรู้ตัวคนร้ายแล้วอยู่ระหว่างการติดตามตัว เชื่อว่าน่าจะได้ตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายในเร็วๆนี้