จากกรณีกู้ภัยโคราชเริ่มหยุดปฏิบัติงานการวิ่งรับส่งคนเจ็บ หลังแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว หลัง สพฉ.มีปัญหาภายใน ยังไม่จ่ายค่าชดเชยปฏิบัติการ 8 เดือน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา เพื่อสอบถามเกี่ยวกับที่ สพฉ.ยังค้างจ่ายค่าชดเชยหรือไม่ และส่งผลกระทบอย่างไร โดยพบกับนายประสิทธิ์ ทองทิตย์เจริญ ประธานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา
นายประสิทธิ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวกรณีดังกล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวก็เหมือนกันทั่วประเทศ ซึ่งเกิดจากปัญหาระบบภายใน สพฉ.เอง ก็ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน หน่วยกู้ภัยเรามีมูลนิธิฯคอยสนับสนุนอยู่ก็เลยไม่มีปัญหา ซึ่งก่อนหน้าที่ยังไม่มี สพฉ.เข้ามา ทางมูลนิธิฯเราก็ทำกู้ชีพ กู้ภัยอยู่แล้ว ซึ่งสมัยก่อนยังไม่มีความรู้เท่าไร แต่พอมี สพฉ.เข้ามากู้ภัยเราก็มีความรู้ในการช่วยเหลือเพิ่มขึ้น ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาล ส่วนที่จะมีปัญหาก็คือหน่วยกู้ชีพกู้ภัยที่ไม่มีมูลนิธิคอยสนับสนุน
ปัจจุบันทางหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยามีรถอยู่ 8 คัน รถอาสาอีกว่า 30 คัน ซึ่งทางหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยายืนยันได้ว่าถึงเราจะไม่ได้รับเงินานับสนุนจาก สพฉ. ทางหน่วยกู้ภัยเราก็ยังวิ่งให้บริการประชาชน และนักท่องเที่ยวในเมืองพัทยา และในพื้นที่อำเภอบางละมุง ตลอด 24 ชม. ส่วนปัญหาที่เกิดก็ได้พูดคุยกับ สพฉ.เกิดจากปัญหาภายในในการสับเปลี่ยนพนักงานคีข้อมูล แต่ สพฉ.จะเริ่มจ่ายเงินให้ได้ภายในเดือน ก.ค. ซึ่งนอกจากปัญหาดังกล่าวยังมีกการจ่ายเงินซ้ำในช่วงโควิดอีก ก็เลยต้องตรวจสอบให้รอบคอบจะได้ไม่เกิดการผิดพลาด
นายประสิทธิ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวบ้าน และนักท่องเที่ยว เกี่ยวกับการให้บริการว่า ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวให้สบายใจได้ว่าสามารถให้บริการได้ตลอด 24 ชม. นอกจากนั้นทางมูลนิธิเรายังทำ MOU กับเมืองพัทยาอีกด้วย