เมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 28 กันยายน 2566 นายไฉน วัยสุวรรณ์ อายุ 46 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ สหกรณ์แท็กซี่ธนาสยามจำกัด เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.พุทธรักษ์ สอนคำหาร รองสว.สอบสวนสภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังถูกคนขับแท็กซี่พัทยา ทุบกระจกรถ ด่าทอและข่มขู่ ทำให้ขวัญผวา เหตุเกิดบนเลียบชายหาดพัทยา บริเวณก่อนถึง ทางเข้าแหล่งท่องเที่ยว วอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้ พร้อมนำคลิปวีดีโอบันทึกภาพคนก่อเหตุมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน
โดยนายไฉน เล่าว่าตนเองขับรถแท็กซี่รับผู้โดยสารมาจากสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ มาส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่เมืองพัทยา ขณะที่กำลังขับรถกลับโดยใช้ถนนเส้นเลียบชายหาดพัทยา เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ รถติดทำให้เกิดการชะลอตัว มีผู้ชายเดินมาดึงประตู แล้วต่อว่า มึงจะมาหากินตรงนี้ได้ไง พร้อมกับใช้มือทุบที่กระจก ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่ได้มารับลูกค้า เพียงแต่ขับผ่านจะไปโต๊ะแท็กซี่เท่านั้น ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นถึงแม้ว่ารถไม่ได้รับความเสียหาย แต่ก็รู้สึกถึงความป่าเถือน ตนเองรู้สึกหวาดกลัว และคิดว่าเป็นทำลายภาพลักษณ์ เพราะขณะเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก
โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้นำกำลังลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบว่าบริเวณดังกล่าวการจราจรชะลอตัว เนื่องจากพฤติกรรมการจอดรถของกลุ่มแท็กซี่และสหกรณ์สองแถว ที่จอดไม่เป็นระเบียบซ้อนคัน กรีดขวางการจราจร ราวกับเป็นเจ้าของถนน ทำให้การสัญจรไม่สะดวกราบลื่น เนื่องจากฝั่งขวาก็จะมีรถยนต์ของนักท่องเที่ยวจอดอยู่ ตลอดแนวเช่นกัน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองพัทยา ได้นำกำลังไปตรวจสอบ พบบุคคลตามคลิปวีดีโอที่ผู้เสียหายแจ้ง จึงขอเชิญตัวบุคคลดังกล่าว มาสอบปากคำที่สภ.เมืองพัทยา ซึ่งให้การอ้างว่ารถแท็กซี่ผู้เสียหายนั้นจอดขวางไม่ยอมขยับ ทำให้รถติดพอไล่ก็มั่วแต่ถ่ายคลิป จึงเกิดบันดาลโทสะ เข้าไปต่อว่าแล้วตบไปที่กระจกรถ ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
ส่วนคลิปวีดีโอที่ผู้เสียหายบันทึกภาพไว้นั้น เป็นชายฉกรรจ์ ไว้หนวดเคราท่าทางน่ากลัว เดินปรี่เข้ามาทุบกระจกฝั่งคนขับ แล้วควักมือเรียกท้าทายให้ผู้เสียหายลงจากรถ พร้อมด่าทอข่มขู่ ว่าอย่ากวนตีน เดียวจะโดนส้นตีน ไอ้สัส ผู้เสียหายจึงได้นำคลิปวีดีโอที่บันทึกไว้มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน ในการดำเนินคดีเอาผิด
อย่างไรก็ตามบริเวณดังกล่าวเกิดปัญหาขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ควบคุมตัวมาดำเนินคดีไปแล้ว แต่ก็ยังไม่เข็ดหลาบ ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้สร้างความเสื่อมเสียภาพลักษณ์ให้กับเมืองท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก รวมไปถึงเรื่องการจอดรถของสหกรณ์สองแถว และแท็กซี่ ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้กวดขันอยู่เป็นประจำ แต่เมื่อคล้อยหลังก็มักจะแอบฝ่าฝืน จอดซ้อนคัน จอดขาวแดง โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ส่งผลให้การจราจรติดขัด ซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ของเมืองพัทยา