จากกรณี ชาวต่างชาติพาสิงโตนั่งรถเบนท์ลีย์ เปิดประทุน แล้วขับตระเวนในเขตพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี แล้วมีคนถ่ายคลิปนำไปโพสต์ในโลกออนไลน์ จนเป็นกระแสฮือฮาบนโลกออนไลน์ ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. ( 24 ธ.ค.67 ) ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา , ตำรวจป่าไม้ , ตำรวจ ตม.ชลบุรี , ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา , เจ้าหน้าที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา ) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช ร่วมกัน เข้าตรวจสอบบ้าน เลขที่ 354/42 ภายในซอยเขาพระตำหนัก 5 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านที่มีการเลี้ยงสิงโต แล้วพาขึ้นรถเบนท์ลีย์ แล้วขับตระเวนชมวิวในพื้นเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยพบสิงโตปล่อยเดินเล่นอยู่ภายในบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รอทางเจ้าของและทนายเพื่อนำเอกสารมาตรวจสอบ
สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบข้อมูล สิงโต ตัวนี้ มีการแจ้ง ครอบครองสัตว์ป่าควบคุมประเภท ก (สิงโต) ไว้ที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) จ.ราชบุรี ปัจจุบัน มีอายุประมาณ 9 เดือน เพศเมีย หมายเลขไมโครชิพรหัสประจำตัว 900219001878562 น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม ชื่อผู้ครอบครอง คือ นางสาวปูเป้ ( นามสมมุติ ) และ อยู่ในระหว่าง แจ้งขออนุญาตนำมาครอบครองที่บ้านเลขที่ 354/42 ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ส่วนชาวต่างชาติผิวสี ที่ปรากฏในคลิป มีการพาสิงโต นั่งรถเบนท์ลีย์ มูลค่ากว่า 20 ล้าน พาตระเวนชมวิวไปรอบๆเมืองพัทยา เบื้องต้น พบว่า เป็นนักธุรกิจชาวศรีลังการ อายุ 53 ปี ปัจจุบัน เดินทางกลับประเทศบ้านเกิด เมื่อวันที่ 22 ม.ค.67 ที่ผ่านมา ส่วนในเรื่องของการ นำสิงโตขึ้นรถหรู ไปเที่ยวตระเวนนั้น เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิงโตตัวนี้ในด้านไหน ทำไมถึงนำสิงโตออกไปตระเวณในเมืองแบบนั้น ซึ่งเข้าข่ายความผิด ในเรื่องของ พรบ.เคลื่อนย้ายสัตว์ดุร้าย โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบ
นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา ) เปิดเผยว่า สำหรับการเลี้ยงสิงโตเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้เพราะเป็นสัตว์ป่าควบคุมในประเภท ก ( สิงโต ) แต่ต้องมีการขออนุญาตอย่างถูกต้องส่วนกรณีที่เป็นปัญหาที่มีการนำขึ้นบนรถเปิดประทุนพาชมวิวทั่วเมืองพัทยานั้น เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและถือเป็นความผิดเพราะสิงโตเป็นสัตว์อันตรายที่ต้องมีการควบคุม มิฉะนั้นอาจเกิดอันตรายแก่ผู้ที่ใกล้ชิดได้ อีกประการหนึ่งคือเรื่องของใบอนุญาตตรงนี้ กำลังรอตรวจสอบว่าเลขที่ไมโครชิพของสิงโตตัวนี้ตรงกับที่ขออนุญาตไว้หรือไม่ ถ้าตรงกันก็ถือว่าถูกต้องส่วนผู้ครอบครองตอนนี้ทราบแล้วว่าเป็นใครก็อยู่ในพื้นที่เมืองพัทยานี่เองแต่การเคลื่อนย้ายสิงโตมาที่เมืองพัทยา ตรงนี้ต้องตรวจสอบอีกครั้งว่า ทางกรมอุทยานได้มาตรวจสอบพื้นที่เลี้ยงว่ามีความเหมาะสมหรือยังและได้อนุญาตให้ทำการเคลื่อนย้ายมาเลี้ยงได้ที่เมืองพัทยาหรือยังถ้ายังก็ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายตามพรบ ป่าไม้และอุทยานซึ่งมีโทษปรับ 50,000 บาทจำคุกหกเดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่พาตระเวนเที่ยวทั่วเมืองนั้น ขณะนี้เดินทางไปต่างประเทศ ขณะที่เจ้าของชื่อเจ้าของที่ระบุไว้ก็ยังไม่ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่แต่อย่างใดซึ่งก็ต้องรอการตรวจสอบอย่างเข้มงวดต่อไป
สำหรับข้อมูล “สิงโต เป็นสัตว์ที่เลี้ยงหรือครอบครองได้ แต่ต้องมีใบอนุญาตจากคนขายทุกครั้ง ส่วนรายละเอียดการเลี้ยงอยู่ภายใต้เงื่อนไขห้ามก่อความเดือดร้อนต่อผู้อยู่อาศัย หรือส่งผลกระทบต่อเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียง ซึ่งพื้นที่ใช้เลี้ยงสิงโตต้องมีบริเวณกว้างขวาง, กรงอยู่ในพื้นที่ 4 คูณ 4 เมตร”