หน้าแรก Uncategorized หมวยชาวจีนอัดคลิป ช่วงนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์   หลังก่อเหตุ คนร้ายยังชิงเงินไปเกือบแสนบาท ในขณะที่คนขี่จักรยานยนต์อีกคันเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่

หมวยชาวจีนอัดคลิป ช่วงนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์   หลังก่อเหตุ คนร้ายยังชิงเงินไปเกือบแสนบาท ในขณะที่คนขี่จักรยานยนต์อีกคันเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่

181
0
แบ่งปัน

ความคืบหน้าล่าสุดกรณีนักท่องเที่ยวชาวจีน  เข้าแจ้งความว่าถูกคนร้ายพยายามข่มขืน จับมัดมือเท้า ก่อนจะจุดไฟเผาป่า  โดย นางสาวเหมยหลิน นามสมมุติ อายุ 29 ปี ผู้เสียหายได้มอบคลิป ภาพถ่ายวิดีโอ ซึ่งถ่ายจากโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายเอง ขณะกำลังนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ โดยผู้เสียหายให้การยืนยันและเป็นคนร้าย โดยลักษณะแต่งตัว สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำ สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีกรมท่า สวมใส่ถุงมือทั้งสองข้าง และมีการสะพายกระเป๋าเป้สีดำไว้บริเวณด้านหน้าลำตัว ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 125 สีดำ โดยจากภาพพบว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวก็กำลังวิ่งอยู่อยู่บนเส้นทางถนนสายห้วยใหญ่ มุ่งหน้าไปทางถนนสุขุมวิท อีกทั้งผู้เสียหายยังมีการพูดในระหว่างบันทึกวิดีโอ กับปลายสายเป็นภาษาจีนว่า “ช่วยส่งโลเคชั่นของเธอมาให้ฉันทีเพราะตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันอยู่ตรงไหน แถวโรงแรมฉันหารถไม่ได้เลย แถวนี้ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เนทด้วย ฉันเจอรถของคนท้องที่ เธอจะต้องแปลกใจแน่เมื่อเราไปถึงโรงแรม”

ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมา ภายหลังจากพาผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย ที่โรงพยาบาลบางละมุง ได้พาผู้เสียหายกลับมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยเจ้าตัวยังยืนยันว่าถูกคนร้ายก่อเหตุพยายามจะข่มขืน แต่พอข่มขืนไม่สำเร็จ ก็นำน้ำมันมาราดกลับพื้น เป็นรูปวงกลม โดยตัวเธอเองนั่งอยู่ตรงกลาง ในรัศมีประมาณ 1 เมตร จากนั้นก็จุดไฟเผา แล้วหลบหนีไป นอกจากนี้คนร้าย ยังจะชิงเอาเงินสด เป็นสกุลหยวน จำนวน 15,000 หยวน และเงินสดไทยประมาณ 10,000 บาท รวมทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป เป็นเงินทั้งสิ้น 90,000 บาท ไปด้วย

ต่อมาตำรวจได้มีการเชิญตัวนายใหม่  นามสมมุติ อายุ 40 ปี อาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง และเป็นผู้พาน้องชายของผู้เสียหาย ไปส่งที่ย่านพัทยาใต้ มาให้การกับตำรวจที่โรงพัก สภ.หนองปรือ พร้อมนำรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง ทะเบียนป้ายเหลือง กขค 504 ชลบุรี เข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม เรื่องราวที่เกิดขึ้น เจ้าตัวกลับมีอาการฉุนเฉียว และหลีกเลี่ยงจะตอบคำถามกับนักข่าว โดยพูดเป็นภาษาอีสานทำนองว่า ” ไม่อยากเป็นข่าว กลัวพ่อแม่เครียด และยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ “ โดยตำรวจมีการบันทึกถ้อยคำ ก่อนจะปล่อยตัวกลับไป