จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊คAmavalee Tongfark ได้โพสต์ให้ช่วยแชร์…ช่วยตามหาคนร้าย ทำร้ายร่างกายปาแก้วใส่แล้วหนี เพราะไม่พอใจที่สุนัขเห่าก่อนจะหยิบแก้วปามาที่ด้านหลังของตน ทำให้เศษแก้วแตกกระจาย ได้รับบาดเจ็บ แต่ผู้ก่อเหตุเป็นชาวต่างชาติตอบกลับว่า I don’t care. หลังเกิดเหตุที่เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สภ. นาจอมเทียน กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.นาจอมเทียน เชิญ ผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำเพิ่มเติมตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 3 มีนาคม 2567 พ.ต.อ.วัฒนชัย แสงฤทธิ์ ผกก.สภ.นาจอมเทียน พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สวญ.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 พ.ต.ท.วิโรจน์ อินทโฉม สว.สส.สภ.นาจอมเทียน พ.ต.ต.อภิชาติ จารุรักษ์ สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 พ.ต.ต.สุพรรณ โสภี สว.สอบสวน สภ.นาจอมเทียน ได้เชิญคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเจรจาหาข้อยุติของเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ โดยผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ Mr.Sam Aspen สัญชาติอังกฤษ อายุ 60 ปี ให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุนั้นเพราะรับประทานยาแก้อักเสบ บรรเทาอาการปวดฟันไป ทำให้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จึงขาดสติก่อเหตุไปและจำเหตุการณ์ในวันนั้นไม่ได้
ด้านน.ส.อมาวลี ทองฝาก อายุ 37 ปี หลังเจรจากับผู้ก่อเหตุ ได้เปิดเผยว่า จากการพูดคุยสอบถามกับผู้ก่อเหตุ เจ้าตัวก็ยอมรับผิด สำนึกผิด และยอมขอโทษต่อหน้าสื่อมวลชน จากใจจริง จึงทำให้เกิดความพึงพอใจ ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ยังมีความรักเมืองไทยอยากอาศัยอยู่ในประเทศไทยต่อ ไม่ได้มีเจตนาที่จะกระทำเช่นนั้น สัญญาจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก พร้อมทั้งชดใช้ค่ารักษาพยาบาลค่าทำขวัญตามความเหมาะสมเป็นเงินจำนวน 18,000 บาท ส่วนในเรื่องของเสียงเห่าของสนัขนั้น ผู้ก่อเหตุบอกเพียงว่าจำไม่ได้ เพราะไม่มีสติจริง ๆ
เบื้องต้นพ.ต.อ.วัฒนชัย แสงฤทธิ์ ผกก.สภ.นาจอมเทียน สั่งการให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 390 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้น เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย แก่กายหรือจิตใจ ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท แต่สามารถเจรจา พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย จนผู้เสียหายพึงพอใจ จึงเหลือเพียงแค่โทษปรับเท่านั้น