วันนี้ 17 เมษายน 2567 ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา นาย อนันต์ชัย ไชยเดช ทนายชื่อดัง พร้อมกับนายก้องภพ วรานุชิตกุล ผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของที่ดินแปลงเลขที่ดิน 35 ตั้งอยู่บริเวณหาดนวล บนเกาะล้าน ม.7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นำหลักฐานการบุกรุกที่ดินเข้าร้องเรียน กับ นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา นายเกียรติศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รักษาการแทนปลัดเมืองพัทยา
สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2566 นายก้องภพ และนางสาวชลิดา ผู้รับมอบอำนาจ ทราบว่า มีผู้บุกรุกเข้าไปในที่ดินแปลงดังกล่าว เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่กว่าๆ ซึ่งในวันที่ 11 ธันวาคม 2566 นายก้องภพ นางสาวชลิดา จึงได้เดินทางไปที่เกาะล้าน ซึ่งพบว่า มีผู้บุกรุกซึ่งไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดได้เข้ามาตัดทำลายต้นไม้ และมีการปรับไถที่ดิน พร้อมทั้งพ่นสีสเปรย์ตามรั้ว ตามต้นไม้ และนำเจ็ตสกีเข้ามาจอดชายฝั่งภายในเขตที่ดิน ซึ่งตอนนั้นไม่พบผู้บุกรุก ในวันที่ 3 ม.ค. 67 จึงได้นำหลักฐานไปบุกรุกที่ดินเข้าร้องเรียน กับ นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา นายเกียรติศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รักษาการแทนปลัดเมืองพัทยาในวันนี้
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช กล่าวว่า วันนี้มาเรื่องกับนายก้องภพ วรานุชิตกุล และนางสาวชลิดา รังสิกุล ผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของที่ดินบนพื้นที่เกาะล้าน ซึ่งก็ได้เดินทางมาที่ศาลาว่าการเมืองพัทยาเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการก่อสร้างตาม พรบ. ควบคุมอาคาร 2522 ว่าในเกาะล้านมีการก่อสร้างโดยมีการขออนุญาตหรือไม่ ซึ่งในพื้นที่พิพาทมีการก่อสร้างอาคารหลังสีขาว ซึ่งไม่ได้มีการขออนุญาต ก็ได้มาตามความคืบหน้า โดยเมืองพัทยายังไม่ได้มีการออกคำสั่งระงับการก่อสร้าง หรือรื้อถอน ตาม ตาม พรบ. ควบคุมอาคาร 2522 อีกหนึ่งประเด็นก็คือ เสี่ยบอยได้อ้างเอกสารใบหนึ่ง และได้แจ้งความกับทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ที่ สภ.เมืองพัทยา ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยเสี่ยบอยอ้างว่าเอกสารชิ้นนี้เป็นของเมืองพัทยาได้ทำขึ้นมา ซึ่งตนก็เดินทางมาที่เมืองพัทยาเพื่อสอบถามถึงเรื่องเอกสารดังกล่าว ว่าเมืองพัทยาได้ทำเอกสารชิ้นนี้จริงหรือไม่
โดยนายเกียรติศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รักษาการแทนปลัดเมืองพัทยา ก็ได้ชี้แจงว่าเอกสารดังกล่าวไม่ได้ออกจากเมืองพัทยา แต่จะมีใครเป็นคนออกตนนั้นไม่ทราบเรื่อง หากมีการเผยแพร่เอกสารราชการ ซึ่งจะมีความผิดตามกระบวนกฎหมายอาญา โดยทนายอนันต์ชัย จะทำเรื่องร้องเรียนเจ้าหน้าที่รางวัด ที่อยู่เกาะล้าน ว่านำความลับราชการมาเปิดเผย และมาอ้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานตำรวจ
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ยังกล่าวต่ออีกว่า เสี่ยบอยได้กล่าวท้าทาย ว่าบุกรุกพื้นที่สาธารณะ ที่จริงไม่ใช่ บนเกาะล้านในการก่อสร้างจะต้องมีการขออนุญาตตาม พรบ. ควบคุมอาคาร 2522 มาตรา 21 22 23 คือการรื้อถอนด้วย โดยพื้นที่ที่เสี่ยบอยก่อสร้างได้มีการขออนุญาตการก่อสร้างหรือไม่ ซึ่งเสี่ยบอยแจ้งความดำเนินคดีกับตน ก็ไม่รู้สึกกลัว ทนายอนันต์ชัย ยังฝากบอกเสี่ยบอยว่าการแจ้งความอันเป็นเท็จให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา 137 ,172 ,173 ,174 อย่าคิดว่าเป็นเรื่องสนุก ตนจะเอากลับสู้กับทนายอนันต์ชัย กฎหมายต้องแม่น พรบ.ต้องแม่น ซึ่งตนไม่เหมือนทนายคนอื่น แต่ถ้าตนจะทำอะไรสักอย่างต้องตรวจดูพยานหลักฐานเรียบร้อยแล้ว ที่เสี่ยบอยพูดมาทั้งหมด ตนได้เก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว สิ่งที่อ้างพยานหลักฐานในชั้นศาล ตนไม่รู้สึกกลัว
ทั้งนี้ ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า ทางเมืองพัทยาจะระงับการก่อสร้าง และให้ยืนขอการก่อสร้างให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยหลักการก่อสร้างจะต้องมาขออนุญาต ส่วนจะอนุญาตหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับหลักฐาน หากทำไม่ได้ก็สั่งดำเนินคดี ซึ่งวันนี้ก็มาตามความคืบหน้า ว่าคดีไปถึงไหนแล้ว เพราะตนต้องตามคดีอื่นอีก ผมไม่กลัวแม้แต่นิด ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่มาจากไหน ไม่สนใจเลย อย่าห้าวให้มาก หลังจากนั้นก็จะร้องตามขบวนการกฎหมาย
จากนั้นทางด้าน นาย อนันต์ชัย ไชยเดช ทนายชื่อดัง พร้อมกับนายก้องภพ วรานุชิตกุล ผู้รับมอบอำนาจ ได้เดินทางไปที่ สภ เมืองพัทยา เข้าพบ พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว ว่าที่ได้แจ้งความไว้ว่าคืบหน้าถึงไหนแล้ว โดยทาง ด้าน พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยเกี่ยวเรื่องดังกล่าว หลังทางทนายอนันตชัย พาผู้เสียหายมาแจ้งความ ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ นอกจากนั้นทาง ผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้สั่งให้ตั้งคณะทำงานเกี่ยวการสอบสวนและดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย ซึ่งอยู่ในระหว่างตรวจสอบที่มาที่ไปของสิทธิของที่ดิน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องใช้เวลาในการทำงาน
