หน้าแรก ข่าวประชาสัมพันธ์ ตร.นาจอมเทียน จับสองพี่น้องลักรถจยย. สารภาพต้องการแค่ขโมยน้ำมัน แต่รถไม่ล็อคคอเลยก่อเหตุเอาไปขายต่อหาเงินใช้

ตร.นาจอมเทียน จับสองพี่น้องลักรถจยย. สารภาพต้องการแค่ขโมยน้ำมัน แต่รถไม่ล็อคคอเลยก่อเหตุเอาไปขายต่อหาเงินใช้

79
0
แบ่งปัน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 มิ.ย. พ.ต.อ.วัฒนชัย แสงฤทธิ์ ผกก.สภ.นาจอมเทียน พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สส.ฯ และกำลังชุดสืบสวน ได้ส่งมอบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 สีดำ-แดง คืนผู้เสียหาย นายกิตติเดช ทศกิ่ง อายุ 24 ปี อดีตทหารหน่วยนาวิกโยธิน ฐานทัพเรือสัตหีบ หลังจากถูกคนร้ายโจรกรรมไปที่ภายในหมู่บ้านเอื้ออาทร นาจอมเทียน ม.2 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยตำรวจสามารถติดตามจับกุมขบวนการได้ครบแก๊งรวมทั้งหมด 3 คน

พ.ต.อ.วัฒนชัย ผกก.นาจอมเทียน กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายกิตติเดช ผู้เสียหาย เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ว่ารถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีดำ-แดง ที่จอดบริเวณหน้าตึก 96 หมู่บ้านเอื้ออาทร นาจอมเทียน ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนโจรกรรมและหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ สภ.นาจอมเทียน ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด กระทั่งพบว่าคนร้ายชายหญิง 1 คู่ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์ เข้ามาที่หมู่บ้าน โดยที่ขาออกชายคนร้ายได้ถีบยันรถจยย.ผู้เสียหายออกมาผ่านป้อมยาม โดยมีผู้หญิงเป็นคนนั่งบังคับรถ

จากการสืบสวนติดตาม ได้พบว่าหลังจากคนร้ายก่อเหตุสำเร็จแล้ว ได้นำรถจยย.ไปขายให้กับนายอนิมิตร หรือเงาะ ผุดผ่องใส อายุ 37 ปี ในราคา 3,000 บาท จึงเดินทางไปติดตามจับกุมผู้รับซื้อและรถจยย. ได้ชุมชนแห่งหนึ่ง ย่าน ม.2 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยรับสารภาพว่า น.ส.พณิตตา หรือเจน อายุ 25 ปี และนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี สองพี่น้อง เป็นคนโจรกรรมและนำมาขายต่อให้กับผู้รับซื้อ ก่อนตำรวจจะขยายผลและจับกุมสองพี่น้องได้ในที่สุด โดยสองพี่น้อง ผู้ก่อเหตุ ให้การยอมรับว่า เป็นคนขโมยรถผู้เสียหายไปจริง โดยคืนเกิดเหตุต้องการเพียงจะขโมยน้ำมันเท่านั้น แต่ด้วยรถยย.ไม่ได้ล็อคคอ จึงตัดสินใจเอารถไปขายต่อเพราะว่าไม่มีเงินใช้และตกงาน

สำหรับการแนวการป้องกันเหตุ หมู่บ้านเอื้ออาทร นาจอมเทียน ที่เป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีประชาชนกว่า 4,000 ครัวเรือน พักอาศัยอยู่ โดยที่ผ่านมามีการเรียกนิติหมู่ประชุมหารือแนวการป้องกันกันหลายครั้ง โดยหลังจากนี้จะมีการเพิ่มวงรอบการตรวจให้ถี่ขึ้น จะเน้นการปรากฏกาย และประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านระมัดระวังทรัพย์สินของตัวเอง และนำอุปกรณ์ล็อครถให้แน่นหนาเพื่อป้องปราบการโจรกรรมที่จะเกิดขึ้น รวมถึงประสานให้หมู่บ้านช่วยเพิ่มกล้องวงจรปิดตามจุดอับ และขอความร่วมมือให้พนักงานรักษาความปลอดภัย หมั่นตรวจสอบรถลักษณะต้องสงสัยที่เข้าออกหลังจากเวลาสี่ทุ่ม เป็นต้นไป.