พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. เป็นประธานการประชุมแนวทางการดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ในช่วงไตรมาสที่ 4 ในพื้นที่เมืองพัทยา โดยมี พ.ต.อ.ศราวุธ ตันกุลรอง ผบก.ทท.1 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศิรชัช หนูเทศ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา, พ.ต.อ.แมน รถทอง ผกก.2 บก.ทท.1 , พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจท่องเที่ยว 4 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว นางอำไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี, นาย เอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา, นางลิซ่า แฮมิลตัน นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน เมืองพัทยา, นายสุขราช กาลรา ประธานชุมชนวอล์กกิ้งสตรีทพัทยา เจ้าหน้าที่ ตม. เจ้าหน้าที่เมืองพัทยา และตัวแทนสถานทูต 5 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศเกาหลี ยูเครน รัสเชีย อินเดีย และประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เข้าร่วมประชุม ณ สถานีตำรวจท่องเที่ยว 4 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1
พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. เปิดเผยหลังการประชุม ว่า ตามที่ นายกรัฐมนตรีได้วางแนวนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสที่ 4 ครึ่งปีหลัง 2567 โดยกำหนดมาตรการ “ฟรีวีซ่า” ให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพิ่มศักยภาพ 55 จังหวัด เมืองน่าเที่ยว ส่งเสริมสนับสนุน Soft Power พร้อมเน้นย้ำเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ในแหล่งท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีมาตรการสอดรับกับนโยบาย ของนายกรัฐมนตรี คือ“การยกระดับความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยการท่องเที่ยวไทย”
ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ตระหนักถึงความสำคัญจึงได้มีมาตรการยกระดับ ความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และได้มีคำสั่งระดมกวาดล้างในส่วนของข้อหาที่กระทำความผิดต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งไกด์เถื่อน ทัวร์ด้อยคุณภาพ และการขายสินค้าเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งได้ระดมกวาดล้างในช่วงวันที่ 19-25 มิถุนายนนี้ โดยการประชุมในครั้งนี้ก็ได้มีการเร่งรัดการดำเนิน อีกทั้งขณะนี้มีทัวร์ทุบตลาดที่มีการประสัมพันธ์ รวมถึงการขายสินค้าที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งในส่วนนี้ก็ได้สั่งการให้สืบสวนเร่งรัดให้มีการจับกุมให้เด็ดขาด พร้อมทั้งได้มีการติดตามความก้าวหน้าโครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง (S.T.C.) ที่เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน ในวอล์คกิ้งสตรีท ซึ่งมีความก้าวหน้าในเรื่องของการนำระบบ A.I. วิเคราะห์ข้อมูล เช่น จำนวนนักท่องเที่ยว การค้นหาบุคคลจากตำหนิ รูปพรรณ เชื่อมต่อกล้องวงจรปิด ตามโครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง (S.T.C.) จำนวน 33 แห่ง และในส่วนของช่องทางการติดต่อสถานทูตที่มีความร่วมมือในการติดต่อสื่อสารกรณี ที่สถานทูตส่งข้อมูลมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนแจ้งกลับไปที่สถานทูต เป็นการสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวทั่วโลก
พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เปิดเผยต่ออีก ว่า ขณะนี้สัญญาณการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4 ในแหล่งท่องเที่ยวที่ได้มีการเฝ้าบูรณาจัดการในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัย ซึ่งชุมชนท่องเที่ยวทั้ง 33 แห่ง มีความร่วมมือจากอาสาสมัครทั้งชาวไทยและต่างชาติ และได้มีการเพิ่มเติมระบบ AI เข้ามา อีกทั้งยังมีการบริการแจ้งเหตุด่วนของตำรวจท่องเที่ยว 1155 ที่ให้นักท่องเที่ยวแจงเหตุได้ถึง 5 ภาษา 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ และหลังจากนี้จะมีการพิจารณาเพิ่มภาษาในการรับแจ้งเหตุแก่นักท่องเที่ยว อีก 3 ภาษา
อย่างไรก็ตาม กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ขอยืนยันว่ามีความพร้อมในการดูแลความปลอดภัย ให้แก่นักท่องเที่ยว ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 โดยได้มีการบูรณาความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่จะดูแลฃและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยา พล.ต.ท.ศักย์ศิรา กล่าวทิ้งท้าย
โดยหลังจากนั้น พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. พร้อมคณะ ผู้บังคับบัญชาตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไป ถนนวอล์คกิ้งสตรีท เพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปฎิบัติหน้าที่ และปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม 10 กลุ่มต้องห้าม รวมทั้วตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการ พบปะนักท่องเที่ยว อีกด้วย