หน้าแรก ข่าวอาชญากรรม หรั่ง พัทยา  ยันถูกฝ่ายเจ้าถิ่นบ้านฉางสาดกระสุนถล่มใส่ กระสุนเจาะใบหน้า-ถากหัว เจ็บ 2 ราย เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม จำหน้ามือยิงได้แม่น เป็นเด็กตำรวจเจ้าถิ่น

หรั่ง พัทยา  ยันถูกฝ่ายเจ้าถิ่นบ้านฉางสาดกระสุนถล่มใส่ กระสุนเจาะใบหน้า-ถากหัว เจ็บ 2 ราย เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม จำหน้ามือยิงได้แม่น เป็นเด็กตำรวจเจ้าถิ่น

716
0
แบ่งปัน

จากกรณี เมื่อเวลา 01.00 วันที่ 3 ก.ย.67 ตำรวจ สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง รับแจ้งมีเหตุชายฉกรรจ์และหญิงสาว กว่า 10 คน ใช้รถยนต์กระบะ 2 คัน และรถ จยย. 2 คัน เป็นยานพาหนะ บุกใช้อาวุธปืนยิงถล่มที่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่  ม.1 ต.พลา อ.เมือง จ.บ้านฉาง ซึ่งเป็นบ้านของนายสมภพ อายุ 32 ปี ได้รับความเสียหาย หลังรับแจ้งตำรวจจึงไปสอบสวนที่เกิดเหตุ พบบ้านดังกล่าวเป็นบ้านชั้นเดียว เปิดเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ถูกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ยิงกระจกหน้าบ้านแตกเสียหาย ตำรวจพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่บริเวณหน้าบ้านจำนวน 5 ปลอก และชิ้นส่วนระเบิดปิงปอง จำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุ เจ้าของบ้านให้กับตำรวจ ว่า คือ นายเบียร์ หรือฉายา “หรั่ง พัทยา” ยกพวกข้ามถิ่นก่อเหตุ เพราะเคลียร์ปัญหาเรื่องครอบครัวไม่ลงตัว และท้าทายผ่านโซเชียล

ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำวันนี้ ( 3 ก.ย.67 ) ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังได้รับการติดต่อจาก นายเบียร์ หรือหรั่ง พัทยา  อายุ 34 ปี ซึ่งฝ่ายคู่กรณี ให้การกับตำรวจว่า เป็นฝีมือของนายหรั่ง พัทยา พร้อมกับพวก ยกพวกไปยิงถล่มใส่บ้านได้รับความเสียหาย โดยเจ้าตัวต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผ่านทีมข่าว และอยากให้ตำรวจให้ความเป็นธรรม เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว ฝ่ายของนายหรั่ง พัทยา  ถูกคมกระสุนของเจ้าถิ่นได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และ กระสุนถากศรีษะ 1 ราย

นายเบียร์ หรือ หรั่ง พัทยา เล่าว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 กันยายน น้องสาวของตนเอง ได้ไปมีปัญหากับอดีตสามี เรื่องจะให้ลูกน้อยวัย 4 ขวบ นั่งวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง กลับจากหมู่บ้านหนองจับเต่า กลับมาที่นาจอมเทียน น้องสาวไม่สบายใจ จึงเดินทางไปบ้านฝ่ายชาย เพื่อรับลูกกลับมาเอง แต่ปรากฏว่าเดินทางไปถึงฝ่ายชาย กลับถูกแฟนใหม่ของฝ่ายชาย พูดจาแขวะใส่ แถมยังถมน้ำลายลงพื้น พอน้องสาวรับหลานกลับมา ปรากฏว่า ทางฝ่ายชายอดีตสามีของน้องสาวได้ส่งข้อความมาขู่ว่า ”ให้ควยใครไว้ ระวังเขาไปจะไปถึงบ้าน“ ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงจะพยายาม เป็นคนกลางเคลียร์ปัญหา แต่ปรากฏว่าพอรับสายโทรศัพท์จาก ฝ่ายอดีตสามีของน้องสาว ก็ถูกด่าว่า ”พ่อมึงตายหรอ“ จึงทำให้ตนเอง กับ ฝ่ายผู้ใหญ่ของอดีตสามีน้องสาว มีปากเสียงกัน ถึงขั้นท้าต่อยกันตัวต่อตัว แถมยังถูกโพสต์ข้อความท้าทาย

จนกระทั่งเวลา 4 ทุ่ม ของวันที่ 2 กันยายน ได้รับสายโทรศัพท์ โดยปลายสายอ้างว่าเป็นตำรวจ สภ.บ้านฉาง จะเป็นคนกลางให้นัดมาเคลียร์ปัญหา โดยส่งโลเคชั่น มาให้ ซึ่งจุดที่นัดเคลียร์ปัญหา ก็คือร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่อำเภอบ้านฉางดังกล่าว ด้วยความที่คิดว่ามีตำรวจเป็นคนกลางเคลียร์ปัญหา จึงตัดสินใจยกพวกเดินไปหา เพื่อเคลียร์ปัญหาให้จบ แต่พอไปถึงระหว่างที่มีการพูดคุย น้องในกลุ่มสังเกตเห็น ว่ากระเป๋าสะพายที่วางอยู่โต๊ะหน้าบ้าน มีอาวุธปืนอยู่ในกระเป๋า ตนเห็นท่าไม่ดี จึงบอกให้ทุกคนขึ้นรถ ซึ่งในขณะนั้น มีฝนตกลงมาหนัก ระหว่างที่กำลังจะขับรถออก มีเสียงปืน ยิงใส่เข้ามาในกลุ่มของพวกตน 2-3 นัด จนทำให้น้องชาย ถูกกระสุนยิงเข้าที่ใบหน้ากระสุนฝังใน และน้องสาวถูกกระสุนเฉี่ยวเข้าที่ท้ายทอย เลือดไหลร่าง จากนั้นน้องในกลุ่ม จึงใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมา ยิงขู่ขึ้นฟ้าไป 5 นัด เพื่อเปิดทางหนีพาคนเจ็บไปโรงพยาบาล ส่วนเรื่องระเบิดปิงปอง ตนเองไม่ทราบว่ามาจากฝ่ายใด ส่วนตัวเองยืนยันว่าไม่มีอาวุธปืนพกติดตัวไป แต่ยอมรับว่ามีน้องในกลุ่มพกปืนไป 1 กระบอก และหลังจากที่น้องถูกยิง ตนเองช็อคจนทำอะไรไม่ถูก เอาแต่ร้องไห้ และ พาน้องสาวกับน้องชายไปโรงพยาบาล

นายหรั่ง ยังเล่าทั้งน้ำตาว่า  “ ทำไมต้องยิงน้องผม” ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ตนเข้าใจว่ามีตำรวจเป็นคนกลางเข้ามาเคลียร์ปัญหา แต่ก็ยังถูกฝ่ายเจ้าถิ่น ซึ่งเชื่อว่าเตรียมการกันไว้ ยิงถล่มใส่ จนทำให้ฝ่ายของตนได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังน้องทั้ง 2 คนถูกยิง ได้พาตัวส่งโรงพยาบาล กม.10 สัตหีบ ต่อมาตำรวจได้เดินทางตามไปยึดรถของฝ่ายตน โดยที่ไม่มีการสอบถามข้อมูลใดๆ จากฝ่ายของตน แถมตนเองยังถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวโจก ยกพวกข้ามถิ่น ไปยิงถล่มใส่บ้าน คู่กรณี ทั้งที่ไม่เป็นความจริง จึงติดต่อกับทีมข่าว เพื่อให้ข้อมูลและอยากให้ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับตนเอง และน้องสาวกับน้องน้องชายที่ถูกกระสุน จากฝ่ายคู่กรณี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งตนจำได้ว่า หนึ่งในผู้ใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มตน เป็นเหมือนผู้ช่วยงานตำรวจ ( เด็กตำรวจ ) ในพื้นที่ สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้พูดคุยกับ ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน ซึ่งทั้งคู่เป็นแฟนกัน โดยพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบางละมุง รายแรก คือ นายชลธาร ฟอร์จูน  ( โจ ) อายุ 26 ปี ถูกกระสุนปืนยิงเข้าจมูก แล้วเข้าไปฝังอยู่ที่กะโหลกแก้มข้างซ้าย และ อยู่ในระหว่างการรอผ่าตัดเอาหัวกระสุนออก  ส่วนอีกราย คือ นางสาวแอม นามสมมุติ อายุ 24 ปี  เป็นแฟนสาว ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณ ด้านหลังท้ายทอย แต่โชคดีกระสุนถาก จนเป็นร่องรอยไหม้จากคมกระสุนเท่านั้น

นางสาวแอม นามสมมุติ อายุ 24 ปี เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ต้นเหตุทั้งหมดมาจากเธอ เพราะมีปัญหากับอดีตสามีเรื่องลูกสาววัย 4 ขวบ ซึ่งหลังจากนั้นตนเองพยามเคลียร์ปัญหา จนเหมือนว่าทุกอย่างจะจบลง แต่พี่ชายก็มา ถูกด่าถึงบุพการี แถมยังถูกข่มขู่ ซึ่งตนเองมีหลักฐาน อยู่ในข้อความแชท ทั้งหมด ต่อมามีการนัดเคลียร์ปัญหา ที่ร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ดังกล่าว แต่พอไปถึง ก็ถูกฝ่ายเจ้าถิ่นยิงใส่ก่อน 3 นัด กระสุนถูกตนและแฟน จนได้รับบาดเจ็บ พอรู้ตัวว่าถูกยิงจึงตะโกนบอก พี่หรั่ง จากนั้นทุกคนก็พยายามออกจากจุดเกิดเหตุเพื่อไปโรงพยาบาลระหว่างที่ขับรถออก จากนั้นก็มีเสียงปืนตามมาอีกหลาย 10 นัด ในเบื้องต้น อยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับฝ่ายคู่กรณี ….