ชาวต่างชาติพาภรรยาชาวไทยร้องผู้สื่อข่าว หลังถูกหลอกบ้านพูลวิลล่า โดยมีการวางเงินดาวน์จำนวน 1,000,000 บาท กับเจ้าของบ้านโดยตรง เมื่อตรวจสอบพบบ้านหลังดังกล่าวถูกจำนองไว้ที่ธนาคาร และไม่นานก็มีหนังสือจากสำนักงานทนายความขอยกเลิกสัญญา อ้างว่าตนเองผิดสัญญา และจะยึด เงินวางดาวน์
นางสาวนฤมล วิชัย อายุ 31 ปี ภรรยาชาวต่างชาติ เปิดเผยว่า ไม่รับความเป็นธรรมและถูกเอาเปรียบจากการไปซื้อบ้านผ่อนโดยตรงกับเจ้าของบ้าน โดยเดือนพฤษภาคมได้ทำสัญญาซื้อบ้านโดยนายฉองปีเตอร์ ซัคส์ โอเดอร์เซ็ต สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์
ได้ไปวางเงินมัดจำจำนวน 1,000,000 บาท ซึ่งวันที่ทำสัญญามีเอกสารแค่แผ่นเดียว รวมทั้งหลังจากไปวางเงินดาวน์ไม่นาน ทางผู้ขายได้ให้ผ่อนชำระงวดแรกเป็นเงิน 60,000 บาท ซึ่งตอนนี้ก็จ่ายไป แต่พอมาเช็คโฉนดพบว่าบ้านหลังดังกล่าวติดจำนอง ซึ่งไม่ตรงกับตอนแรกที่เค้าเสนอขาย จึงไม่อยากได้บ้านหลังดังกล่าวแล้ว แต่พอไปคุยว่าไม่ต้องการซื้อบ้านหลังดังกล่าวแล้วเพราะไม่ตรงตามที่คุยกันไว้ ทางเอเย่นต์และเจ้าของบ้านบอกว่าให้เงินดาวน์คืนเพียง 500,000 บาท เพราะทางเราได้นำบ้านไปโปรโมทเป็นบ้านพูลวิลล่า และประกาศขาย ทำให้เกิดความเสียหายกลับบ้านหลังดังกล่าว ตนเองก็ยอมรับเงินจำนวน 500,000 บาทคืนเท่านั้น ส่วนอีก 500,000 บาทที่ทางเจ้าของบ้านหักก็ถือว่าเป็นการเสียค่าหายต่างๆที่เกิดขึ้น และตนเองคิดว่าเป็นการเสียค่าโง่ ตลอดระยะเวลาที่ไปเจรจาคืนบ้านก็มีการพูดคุยทางแชท แต่หลังจากนั้นทางเอเย่นและเจ้าของบ้านเงียบ จนมาเมื่อต้นเดือนกันยายนก็มีหนังสือยกเลิกสัญญามาแทน ซึ่งแฟนชาวต่างชาติและตนเองก็รู้สึกผิดหวังและเสียความรู้สึกมาก เพราะตั้งแต่แรกไปซื้อแล้วกับความเป็นจริงไม่ตรงกันเลย
เบื้องต้นได้ไปเดินทางแจ้งความลงประจำวันเพื่อดำเนินคดีที่สภ. หนองปรือ เรียบร้อยแล้ว และได้ดำเนินการให้ทนายความดำเนินการ ตามขั้นตอนของกฎหมายอีกด้วย นอกจากนั้นฝากเตือนบุคคลที่จะไปซื้อบ้านโดยมีการผ่อนตรงกับเจ้าของบ้าน ขอให้ตรวจสอบสัญญาต่างๆ รวมทั้งเอกสารต่างๆโฉนดที่ดินให้เรียบร้อย ว่าตรงกับที่เขาโฆษณาหรือไม่
ส่วนหนังสือสัญญา ทำขึ้น ระหว่าง นางสาวเสาวลักษณ์ แซ่เฮง ผู้ขาย กับ นายฉองปีเตอร์ ซัคส์ โอเดอร์เซ็ต สัญชาติ สวิตเซอร์แลนด์ ผูัซื้อ โดยระบุสัญญาว่า วางเงินดาวน์ 1,000,000 บาท ที่เหลือ 6,490,000 บาท ซื้อกับผ่อนโดยตรงกับเจ้าของบ้าน ทุกๆเดือนจำนวน 24 เดือน ทุกๆต้นเดือน คิดดอกเบี้ย 6.5% ต่อปีจากยอด โดยจะจ่ายที่เหลือทั้งหมดในวันโอนกรรมสิทธิ์บ้าน
ส่วนหนังสือที่ทางทนายความส่งมา เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 ระบุในหนังสือขอยกเลิกสัญญา จากการทำหนังสือขายบ้านพูลวิลล่า ระหว่างนางสาวเสาวลักษณ์ แซ่เฮง ผู้ขาย กับ นายฉองปีเตอร์ ซัคส์ โอเดอร์เซ็ต ผูัซื้อ โดยระบุสัญญาว่า วางเงินดาวน์ 1,000,000 บาท ที่เหลือ 6,490,000 บาท ซื้อกับผ่อนโดยตรงกับเจ้าของบ้าน ทุกๆเดือนจำนวน 24 เดือน คิดดอกเบี้ย 6.5% ต่อปีจากยอด โดยจะจ่ายที่เหลือทั้งหมดในวันโอนกรรมสิทธิ์บ้าน โดย นายฉองปีเตอร์ ซัคส์ โอเดอร์เซ็ต ผูัซื้อ ได้ผ่อนเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2567 หลังจากนั้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึง กันยายน นายฉองปีเตอร์ ซัคส์ โอเดอร์เซ็ต ผูัซื้อ ไม่ได้ผ่อนตามที่ระบุในสัญญา ซึ่งได้ติดค้างค่าผ่อนชำระจำนวน 180,000 บาท ซึ่งหลังจากได้รับหนังสือฉบัให้บนึ้แล้วให้รีบติดต่อกลับภายใน 15 วัน การเพิกเฉยขอเลิกสัญญาจะซื้อจะขาย และต้องชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้แก่เจ้าของบ้านเดิม