เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 9 ธ.ค.63 นายธนพัฒน์ บรรบุปผา กำนันตำบลนาจอมเทียน พร้อมด้วยชาวบ้านใน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กว่า 20 คนไปรวมตัวกันบริเวณเชิงเขามะละกอ หมู่ 6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ หลังทราบว่ามี การนัดเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ เข้ามาตรวจสอบสถานะความเป็นที่ดินสาธารณ ประโยชน์ โดยมีนายกันต์ พรหมรักษา อายุ 34 ปี แสดงตนเป็นเจ้าของที่ดินบริเวณรอบเขามะละกอ และเป็นผู้ยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน
โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย นายพันธ์วัจน์ ดาวัลย์ ปลัดอำเภอสัตหีบ ผู้แทนอำเภอสัตหีบ นายสิรวิวิชญ์ ลาอยู่ นายช่างโยธาชำนาญงานและนายจิตติณ โรจน์บุญส่งศรี นิติกร ผู้แทนเทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ นายสำนึก ชูวงษ์ นายช่างสำรวจชำนาญงาน สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 9 (ชลบุรี) และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนในพื้นที่ทราบข่าว ได้เดินทางมาร่วมตรวจสอบและสังเกตการณ์ อย่างไรก็ตามชาวบ้านยืนยันว่า จะคัดค้านการตรวจสอบสถานะความเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณ ประโยชน์อยู่แล้ว ทำไมต้องมาตรวจสอบอีก
นายกันต์ พรหมรักษา ผู้ยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน และแสดงตนเป็นเจ้าของที่ดินเปิดเผยว่า ได้ครอบครองที่ดินต่อจากปู่คือนายสุเทพ พรหมรักษา ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากนายอรุณ พรหมรักษา บิดา มีครอบครัวและย้ายไปเมื่อปี 2542 ทำให้ตนต้องอยู่ดูแลปู่ย่ากับพี่สาวในวัยชรา ก่อนในปี 2547 ได้มีประชาคมหมู่บ้านว่าจะขึ้นทะเบียนเขามะละกอ เบื่องต้นมีเนื้อที่อยู่ประมาณ 10 กว่าไร่ ก่อนจะมีการทำรังวัดและตรวจสอบที่ดินกันเกิดขึ้น ในระหว่างยื่นขึ้นทะเบียนที่ดิน ทางเทศบาลได้ขอยกเลิกการขึ้นทะเบียนที่ดิน เป็นการขอออกโฉนดที่ดิน โดยอ้างว่านายสุเทพ เป็นคนยกที่ดินให้ทั้งหมด ต่อมาทางเทศบาลให้กรมพัฒนาที่ดิน เข้ามาตรวจสอบพื้นที่ ว่าที่ดินแปลงนี้ ออกโฉนดได้หรือไม่ เป็นที่เขาหรือไม่ ที่ป่าสงวนหรือไม่ หลักฐานเอกสารต่างๆ จะอยู่ในโฉนเลขที่ 47915 อยู่ที่กรมที่ดิน สมัยนั้นผมเป็นเด็ก แต่พื้นฐานครอบครัวผมสมัยนั้นพ่อมีอาชีพเผาถ่านอยู่แล้ว การตัดไม้ในพื้นที่ไปประกอบการเผาถ่านมีอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ตนก็ไปศึกษาข้อมูลเพื่อจะมาต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มาแสดงความประพฤติไม่ชอบกับผม เบื้องต้นผมยื่นฟ้องศาลปกครอง มีเลขคดีศาลสูงสุดแล้ว เพราะเขาเจตนาเหมือนกลั่นแกล้งครอบครัวผมไม่ให้แสดงสิทธิทำกินในที่ดินแปลงนี้ ซึ่งตนเป็นผู้ยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน และให้ตรวจสอบสถานะความเป็นที่ดินสาธารณประ โยชน์ ขึ้นอีกครั้ง เพื่อจะทวงที่ดินของครอบครัวตนคืน
ด้านนายธนพัฒน์ บรรบุปผา กำนันตำบลนาจอมเทียน กล่าวว่าชาวบ้านที่มาในวันนี้ ได้รวมตัวต่อต้านการยึดครองที่ดินดังกล่าว เนื่องจากมีการขอตรวจสอบสถานะความเป็นที่ดินสาธารณประ โยชน์โดยมิชอบ เห็นว่าไม่ถูกต้องและมิชอบ “พวกเราชาวบ้านออกมารวมตัวคัดค้านกันขนาดนี้ เพราะอยากรักษาพื้นที่บริเวณเขามะละกอ รวมแล้วประมาณ 24 ไร่ เพราะมีกลุ่มนายทุนจ้องจะครอบครอง ที่ผ่านมาพวกเราชาวบ้าน และหน่วยราชการได้มาช่วยกันจับผู้บุกรุกกันหลายรอบแล้ว ทั้งเครื่องจักรกลและบุคคลหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังมีกลุ่มนายทุนเข้ามาอยู่ดี วันนี้ก็ยังมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงขอให้ตรวจสอบสถานะความเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากทุกหน่วยงานก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ พวกเรายืนยันจะต่อต้านนายทุนทุกคนให้ถึงที่สุด ที่ดินแห่งนี้มีราคามหาศาลกว่าหลายร้อยล้านบาท ทำเลดีเห็นวิวไปถึงพัทยา สวยงามมากและติดสนามกอล์ฟ ทำให้เป็นที่จ้องมองของกลุ่มนายทุน
มีรายงานว่าบริเวณเขามะละกอ เป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ ทุกหน่วยงานในพื้นที่และประชาชนร่วมกันปลูกป่าเฉลิม พระเกียรติ ในโอกาสที่รัชกาลที่ 9 ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา แต่ก็มีกลุ่มนายทุนเข้ามาบุกรุกแผ้วถางป่าเป็นประจำ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาชาวบ้านทำพิธีเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งกลุ่มนายทุนที่ยึดป่าชุมชนได้ร่วมกันปักป้ายกรมป่าไม้เพื่อแสดงสัญลักษณ์แนวป่าธรรมชาติเป็นป่าตามมาตรา 4 (1) แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ห้ามแผ้วถางป่าหรือเข้ายึดถือครอบครอง ฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ก็ยังมีกลุ่มบุคคลเข้ามาทำลายป้าย จนพังเสียหายและบุกรุกแสดงความเป็นเจ้าของอยู่ตลอดเวลา
