ที่ศาลเยาชนและครอบครัวกลาง กทม. นางอโนชา ชีวิตโสภณ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. นายฤทธา สังศิลา ผอ.สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุง เทพมหานคร ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการสร้างครอบ ครัวอบอุ่นและเข้มแข็ง โดยมีการจัดกิจกรรม การให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างความเข้าใจ ระหว่างผู้ปกครองและเด็กหรือเยาวชน เพื่อป้องกันการกระทำผิดที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน ให้กับตัวแทน หรือประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กว่า 900 คน เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ระหว่าง เดือน ม.ค.-ก.ย. 2564 โดยกำหนดจัดให้มีกิจกรรมครั้งแรก ในวันที่ 19 ธ.ค.2563 เวลา 08.00 – 12.00 น. ที่ รร.บางมดวิทยา กทม.
นางอโนชา ชีวิตโสภณ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กล่าวว่า “ตามนโยบายหลักของ นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา มีนโยบาย ในการสร้างการมีส่วนร่วมการรับรู้ ลดช่องว่างกับบุคลากรภายนอกในรูปแบบที่เหมาะสม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาศาลยุติธรรมที่ยั่งยืน ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จึงได้มากำหนดนโยบายดังกล่าว โดยมีนางอุไรรัตน์ น้อยสุวรรณ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง รับผิดชอบการจัดกิจกรรมป้องกันการกระทำความผิดและเสริมสร้างสถาบันครอบครัวอบอุ่นแข็งแรง”
โดยศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ได้ร่วมกับทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ชุมชนต่างๆ เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญ ในการป้องกันการกระทำผิดเกี่ยวกับเด็ก คาดหวังว่าการให้ความรู้แก่แกนนำในชุมชนต่างๆ จะสามารถนำความรู้ไปถ่ายทอดต่อ เพื่อสร้างความเข้าใจกับชุมชนนั้นๆ รวมถึงช่วยสอดส่องดูแลเด็กและเยาวชน พร้อมทั้งช่วยเหลือเพื่อเป็นโอกาสเป็นเกราะ ช่วยคุ้มครองลดการกระทำความผิดที่เป็นปัญหาเกิดขึ้นในสังคมต่อไป
ข้อดีมีชุมชนช่วยสอดส่องดูแลให้คำแนะนำต่างๆ เพื่อให้ครอบครัวและชุมชนสามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม และยังเป็นการป้องกันการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชนในทุกรูปแบบ อันส่งผลให้ครอบครัวมีความเข้มแข็งอบอุ่นและมีคุณภาพชีวิตที่ดี อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กล่าว
ด้านพล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่ดีที่มีการประสานงานร่วมระหว่าง 3 หน่วยงาน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนช่วยสร้างเครือข่ายผู้นำชุมชนให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น เมื่อชุมชนเข้มแข็งแล้วก็จะขยายออกจากชุมชน หมู่บ้าน เป็นตำบล เป็นเมือง ทำให้สังคมมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน