หน้าแรก ข่าวเศรษฐกิจ เจ้าของร้านคิงซีฟู๊ดพัทยาเปิดใจหลังโพสต์ปิดกิจการต้านพิษโควิด 19 ระลอกสองไม่ไหว

เจ้าของร้านคิงซีฟู๊ดพัทยาเปิดใจหลังโพสต์ปิดกิจการต้านพิษโควิด 19 ระลอกสองไม่ไหว

444
0
แบ่งปัน
https://youtu.be/6junNCVJC70

จากกรณีที่เพจร้าน KING SEAFOOD ตั้งอยู่ภายในถนนวอล์คกิ้ง สตรีท พัทยาใต้ได้โพสต์ปิดร้าน ประกาศปิดร้าน เพราะโควิด และเพราะเจ้าหน้าที่คอรัปชั่น Close due to Covid and Corrupt government ระบุอีกว่า เรียนลูกค้าที่รักทุกท่านครับ ประกาศปิดร้าน จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ทางเราขอยอมแพ้แล้วครับ เราสู้ไม่ไหวแล้ว เอาจริง ๆ ตั้งแต่กลับมาเปิดได้เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเราก็แบกภาระขาดทุนมาโดยตลอด แต่ช่วงนั้นเรามีความหวังที่ว่า ทุกอย่างจะดีขึ้น แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวังเอาไว้ รอบนี้เราหมดแล้วจริง ๆ  ทั้งกำลังกายและกำลังใจ

                 เจ็บ ที่ หนึ่ง หากคนในพื้นที่พัทยา ยังพอจำได้ ในช่วงของการล็อกดาวน์ครั้งแรกนั้น ร้านเราทำอาหารกล่องแจกพี่น้องคนพัทยา ยาวนานถึงสองเดือน แจกไปไม่ต่ำกว่า 30000 กล่อง ช่วงนั้นเราได้รับเสียงชื่นชมและสรรเสริญจากหลายๆฝ่าย หลายคนบอกกับเราว่า กลับมาเปิดจะมาอุดหนุน อยากสนับสนุนธุรกิจที่ช่วยเหลือสังคม แต่สุดท้ายแล้วคนที่เคยสัญญาว่าจะมาเยี่ยมเราอุดหนุนเราก็ไม่เคยมา ด้วยหลายเหตุหลายปัจจัย บางคนอ้างว่าไม่มีที่จอดรถ บางคนไม่อยากมาในพื้นที่อบายมุขอย่างถนน Walking Street บางคนบอกว่าเราขายแพงกว่าร้านข้างนอกเมือง แต่เราก็อดทน ทำทุกอย่างปรับปรุงทุกอย่างตามสภาพและกำลังที่เราจะทำได้

                เจ็บที่สอง ความผิดรอบนี้มาจากการทุจริต ของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าจะกรณีแรงงานข้ามชาติหรือกรณีบ่อน แต่รัฐกลับโยนความรับผิดชอบและภาระมาให้ภาคเอกชน คำสั่งปิดก่อนวันปีใหม่สร้างความเสียหายแก่เรามาก ลูกค้ายกเลิกการจองทั้งหมด หากมีการจัดงานปีใหม่ตามปกติ เราคงมีกำลังใจและทุนที่จะสู้ต่อ แต่ความเสียหายระดับนั้น ณ เวลานี้มันทำให้เราไม่มีทางเลือกนอกจากปิดร้าน  โดยทางรัฐก็ไม่เคยมีแผนการเยียวยาผู้ประกอบการและพนักงานที่จะได้รับผลกะทบใด ๆเลย

                เหนื่อยแล้วครับ ท้อแล้ว อยู่บ้านนี้เมืองนี้ ทำถูกต้อง ทำดีเสียสละ ไม่เคยได้ดี รอบนี้ไม่ขอกำลังใจจาก คำว่า  “สู้ๆ” แล้วนะครับ เพราะหนึ่งปีที่ผ่านมาเราสู้มาทุกรูปแบบแล้ว เราทำเต็มที่แล้ว  ไม่มีอะไรที่เราเสียใจว่าเรายังทำได้ไม่ดีพอ วันนี้เราขอก้มหน้ารับชะตากรรม  เป็นผู้แพ้แบบหมดทางสู้ ตอนนี้บอกตรง ๆ ครับยังคิดไม่ออกว่า อนาคตจะไปทางไหน แต่ ณ เวลานี้ ขอปิดร้าน จนกว่าจะมีอะไรดีขึ้นครับ ขอขอบคุณทุกกำลังใจในรอบปีที่ผ่านมาครับ ถึงจะน้อยนิดแต่เราจะไม่มีวันลืมลูกค้าทุก ๆ ท่านที่อุดหนุนเราในยามที่เราลำบาก ป.ล. สำหรับลุกค้าท่านใดที่ยังอยากจะช่วยอุดหนุน สั่งซอส xo จากเรา เรายังมีขายครับ เราก็หวังว่า การล็อกดาวน์รอบนี้ จะยังพอมีลูกค้าสั่งซอสพอที่จะให้เรารักษาพนักงานไว้บางส่วนได้

                ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 4 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นางเปรมฤดี จิตติวุฒิการ อายุ 67 ปี ได้เปิดเผยว่า ที่โพสต์เป็นความอัดอั้นของลูกชาย คือจริง ๆก็ต้องปิดอยู่แล้วเพราะไม่มีลูกค่า ที่โพสต์ก็เพราะมีลูกค้าที่อยู่ทั้งต่างจังหวัดและต่างประเทศ ซึ่งก่อนจะปิดตัวก็เริ่มจะกระเตื่องขึ้นมานิดนึง คล้ายกับเพิ่งถอด ออกซิเจน ออก พอหายใจสะดวก ก็พอประคับประคองไปได้ สบายใจในจุดนี้คือได้เลี้ยงดูลูกน้อง ในส่วนของการแพร่ระบาดนั้นมันใช่ความผิดเรา เป็นสิ่งที่หน่วยงานของรัฐหละหลวมเล็กน้อย สุดท้ายก็เป็นจริง ๆ และยังมีของแถมเป็นบ่อนอีก

                ซึ่งต่อจากนี้ก็ต้องตามเวรตามกรรม นอกจากนี้ยังฝากถึงผู้ประกอบการรายอื่นที่อาจจะแย่กว่าเรา ยิ่งแรงงานชาวอีสานค่อนข้างสาหัส ก็ขอฝากว่าก่อนหน้านี้ประเทศไทยก็เคยเจอสถานการณ์ยิ่งกว่านี้ก็ยังผ่านไปได้ เราต้องเอาเรื่องราวร้ายๆมาปลอบใจเขา

นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล  ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 0909535645,0945565622/086-3684323