ขบวนการหลอกให้รัก แล้วลวง เป็นภัยต่อสังคมอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีการแฝงตัวมากับสังคมโซเชียล เฟซบุ๊ค อินสตาร์แกรม หรือที่เรียกว่า “แสร้งรักออนไลน์ หรือ ROMANCE SCAM” มีเหยื่อเป็นหญิงสาวหลายรายตกหลุมพลาง ถูกหลอกให้โอนเงินให้แก๊งมิจฉาชีพ โดยจะเข้ามาทำทีตีสนิทในเชิงชู้สาว และชักชวนให้ลงทุนทำธุรกิจ โดยจะใช้โปรไฟล์เป็นชาวต่างชาติ ดูดี มีหน้าที่การงานดี แล้วทำให้เหยื่อหลงเชื่อว่าจะเข้ามาใช้ชีวิตร่วมกัน หรือจะได้ผลกำไรตอบแทนจากการทำธุกิจ แต่สุดท้ายก็เพียงแค่ตกเป็นเหยื่อสูญเสียเงินจำนวนมากเท่านั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ หัวหน้าชุดศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมกันจับกุมน.ส.กิตทิวา หรือก้อย แซ่ห่าน อายุ 25 ปีและน.ส.กรุณา หรือน้ำ แก้วเทศ อายุ 31 ปี พร้อมของกลางเป็น บัตรกดเงินอัตโนมัติ (ATM) และสมุดบัญชีธนาคารต่างชื่อบัญชีกันจำนวนหลายธนาคาร ซึ่งเชื่อว่าเป็นบัญชีทีมีเส้นทางการโอนเงินเข้ามาของผู้เสียหายที่ตกเหยื่อ จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ซึ่งก่อนการจับกุมนั้นทางเจ้าหน้าที่ ศปชก.ภ.จว.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกลวงให้โอนเงิน ผ่านสื่อออนไลน์ (เฟซบุ๊ค) ทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก จึงได้ทำการออกสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด จนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมกระบวนการ “แสร้งรักออนไลน์ หรือ ROMANCE SCAM” จึงได้ติดตามจับกุมตัวได้พร้อมของกลางขณะกระทำความผิด โดยพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุนี้ คือเป็นธุระจัดหาสมุดบัญชีธนาคาร พร้อมบัตรเอทีเอ็ม เพื่อเอาไว้สำหรับหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้า โดยผู้กระทำผิดได้ทำการติดต่อซื้อขายบัญชีธนาคารมาในราคา 6,000-7,000 บาท ต่อหนึ่งบัญชี ส่วนหนึ่งจะไปขายต่อให้ชาวต่างชาติผิวดำ ที่กบดานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ในราคา 10,000-15,000 บาท อีกส่วนหนึ่งที่เก็บไว้กับตนเองคือรอยอดเงินของเหยื่อโอนเข้าบัญชี ก็จะทำหน้าที่ ม้ากด คือใช้บัตรไปกดถอนเงินออกมา แล้วหักค่าจ้าง 3-5 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่กดออกมา ก่อนจะนำเงินส่วนที่เหลือไปฝากเข้าอีกบัญชีตามที่ผู้บงการจะสั่งการเป็นครั้งๆไป
เบื้องต้นได้ควบคุมตัวน.ส.กิตทิวา หรือก้อย แซ่ห่าน อายุ 25 ปีและน.ส.กรุณา หรือน้ำ แก้วเทศ อายุ 31 ปี พร้อมของกลางเป็นบัตรกดเงินอัตโนมัติและสมุดบัญชีธนาคารต่างชื่อบัญชีกันจำนวนหลายธนาคาร และแจ้งข้อกล่าวหา มีไว้เพื่อใช้และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหาย แก่ผู้อื่น ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปชก.ภ.จว.ชลบุรี จะต้องติดต่อตัวผู้เสียหายที่ถูกหลอก เคยโอนเงินเข้ามายังบัญชีธนาคารที่ผูกกับบัตรเอทีเอ็มของกลางที่ตรวจยึดไว้ได้ ให้มาติดต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งมีผู้เสียหายในหลายพื้นที่ พร้อมจะขยายผลไปยัง ผู้ร่วมกระบวนการ ผู้ใช้ จ้างวาน บุคคลที่ทำหน้าที่จัดหาบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม ที่กลุ่มมิจฉาชีพนำมาหลอกลวงให้ผู้เสียหายที่หลงเชื่อโอนเงินเข้า มาเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป