เมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดชุมพร (ศรชล.จว.ชพ.) โดย น.อ.กิตติพงษ์ พุ่มสร้าง รอง ผอ.ศรชล.จว.ชพ. และกำลังพล ออกสำรวจพื้นที่ในการดำเนินการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทางทะเล ตามมาตรการป้องกันโรค ตามที่ราชการกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทางทะเล โดยเข้าตรวจเรือท่องเที่ยวที่เข้าจอดในพื้นที่จังหวัดชุมพร จำนวน 2 ลำ บริเวณท่าเทียบเรือส่งเสริม ต.ปากน้ำ อ.เมืองชุมพร จว.ชุมพร ประกอบด้วย เรือ ฐาปนา 1 และ ฐาปนา 2 เป็นเรือขนาดใหญ่ ที่ให้บริการแก่นักดำน้ำ
ในการปฏิบัติ ศรชล.จว.ชพ. ได้กำชับ และเน้นย้ำให้ผู้ควบคุม และลูกเรือ ได้ทราบถึงมาตรการการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน COVID-19 ของจังหวัดชุมพร ซึ่งผู้ควบคุมเรือทั้ง 2 ลำ แจ้งว่า ขณะนี้เรือได้หยุดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวแล้ว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคิดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ได้ระบาดอย่างรวดเร็ว จึงหยุดให้บริการไว้ก่อน จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ จะเข้าสู่สภาวะปกติ และขณะที่เรือจอดอยู่ในพื้นที่จังหวัดชุมพร ผู้ควบคุมเรือและลูกเรือ จะปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการระบาดของ COVID-19 ของจังหวัดชุมพร อย่างเคร่งครัด
และต่อมา ศรชล.จว.ชพ. ได้ปฏิบัติงานในเชิงรุก ประสานการปฏิบัติร่วมกับ สมาคมชาวประมงเรืออวนซั้งและเรือร่วมปากน้ำชุมพร เพื่อเร่งรัดให้การขับเคลื่อนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในกิจการเรือประมงอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์โดยเร็ว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจาก ผู้ประกอบการเรือประมง และผู้ประกอบการกิจการต่อเนื่องจากประมง จัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 1,700 โดส เพื่อฉีดวัคซีนฯ ให้แก่ลูกเรือประมงต่างสัญชาติ และแรงงานต่างสัญชาติ ที่ต่อเนื่องจากกิจการประมง จำนวน 850 คน (ผู้ประกอบการเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด) ผ่าน สมาคมชาวประมงเรืออวนซั้งและเรือร่วมปากน้ำชุมพร ในวันที่ 26-27 ก.ค.64 ณ อาคาร อบต.ปากน้ำชุมพร ต.ปากน้ำ อ.เมืองชุมพร จว.ชุมพร เป็นจุดบริการ และ รพ.ธนบุรี-ชุมพร จัดพยาบาล มาให้บริการฉีดวัคซีนฯในการนี้ ศรชล.จว.ชพ.จะติดตามผลการฉีดวัคซีน อย่างใกล้ชิด
ภาพ/ข่าว สนง.ศรชล.ภาค 1
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน