ชีวิตสุดรันทด..หนูน้อยวัย 11 ขอข้าวให้ครอบครัว 8 ชีวิตผ่านโซเชียล ร้องโควิดทำพินาศหมดทางทำกิน พ่อตาบอด-ย่าหมดหนทางค้าขายไร้คนเหลียวแล
ชีวิตที่สุดแสนจะลำบากของครอบครัวที่มีถึง 8 ชีวิตที่ต้องอาศัยที่ดินของญาติพักอยู่ในบ้านปูนซอมซ่อภายในซอย มาบยายเลีย 5 ซอยเนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มานาน ปัจจุบันประสพปัญหาจนแทบไม่มีข้าวจะมาประทังชีวิต สุดท้ายหนูน้อยวัย 11 ปี หรือ ดช.สรยุทธ วารีดำหรือออย นักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านเนินพลับหวาน ได้โพสต์ข้อความผ่านโลกโซเชียลเพื่อขอความเห็นใจจากสังคมในการขอรับบริจาคอาหารเพื่อมาให้ครอบครัวใช้ในการประทังชีวิต
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพักเลขที่ 53/5 ภายในซอยดังกล่าว พบนางวันุสนา นิโรจน์รัมย์ อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นย่าอยู่ภายในบ้าน พร้อมด้วย นายวีรยุทธ วารีดำ อายุ 28 ปี พ่อของเด็กซึ่งมีอาการพิการตาบอดทั้ง 2 ข้าง รวมไปถึง ด.ช.สรยุทธ วารีดำ โดยพบว่าทั้งหมดอยู่บนที่รกร้างเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา ซึ่งทราบว่าเป็นของญาติ พร้อมมีการก่อสร้างที่พักแบบเรียบง่ายจำนวน 2 หลัง
โดยจากการสอบถามนางวันสุนา เล่าว่าแต่ก่อนมีอาชีพค้าขายก๋วยเตี๋ยว ตอนช่วงกลางคืนตามสถานบันเทิงในเขตเมืองพัทยาเพื่อนำเงินมาหาเลี้ยงครอบครัวทั้ง 8 ชีวิตทั้งลูกๆและหลาน แต่หลังจากมีโรคโควิดทำให้ค้าขายไม่จึงไม่มีเงินใช้เพื่อซื้ออาหารมารับประทาน ขณะที่บุตรชายก็ตาบอดทั้ง 2 ข้างแต่เดิมมาอาชีพเป็นหมอนวดที่อยู่ที่ภาคใต้แต่เมื่อมีปัญหาโรคโควิดจึงกลับมาอยู่ร่วมกัน จากนั้นก็มาหานั่งร้องเพลงตามตลาดนัดเพื่อหารายได้ แต่สุดท้ายตลาดก็โดนปิดอีกจึงไม่มีรายได้ไปด้วย
ขณะที่ ด.ช.สรยุทธ บอกว่าสงสารพ่อ ย่าและครอบครัวอย่างมาก จึงได้โพสต์เฟสบุ๊คดูเพื่อจะมีผู้ใจบุญให้ความสงสารบ้าง ทุกวันนี้อยู่กันด้วยความลำบาก ก็ต้องขอขอบคุณที่ทางผู้สื่อข่าวมาร่วมนำเสนอเพื่อภาครัฐจะรับรู้และหันมาให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครับตนบ้างนอกจากนี้ด.ช.สรยุทธ ยังได้โชว์โทรศัพท์มือถือ สภาพเก่า หน้าจอแตกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ที่ตนเองใช้ในการเรียนออนไลน์ ซึ่งสอบถามผลการเรียน ทราบว่าเป็นเด็กเรียนดี เคยสอบได้ที่ 1 ที่สอง สอบได้ตำ่สุดที่ 5 ของห้องอีกด้วย