ด้านนาย อนุชา วงศ์ศรีรัตน์ ทนายความของ “เสี่ยบี” เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเราก็มีความหวังที่จะได้รับความเมตตาจากศาลในการประกันตัว เพราะเหตุที่เกิดขึ้นนั้นมาจากความประมาท ไม่ได้เจตนา และทางเราก็พยายามจะเยียวยามาโดยตลอด โดยถ้าได้ประกันตัวออกมาก็จะสามารถวิ่งไปหาญาติหรือคนที่รู้จักเพื่อหาเงินมาใช้ในการเยียวยาได้ จึงคาดหวังว่าศาลท่านคงจะเข้าใจ และเห็นใจ เพราะเจตนาก็ไม่ได้คิดจะหลบหนีไปไหนเลยตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีที่เกิดขึ้นทาง “เสี่ยบี” และครอบ ครัวก็รู้สึกช็อคและเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่ได้มีเจตนาเป็นเพียงแค่คนวัยทำงานหนุ่ม-สาว ซึ่งมีอายุแค่ 27 ปี ที่อยากสร้างตัว อยากสร้างอนาคตเท่านั้น โดยที่ยังไม่ค่อยขั้นตอนและวิธีการมากนักเลยเกิดความผิดพลาด
ส่วนในเรื่องของรูปคดีนั้นตอนนี้ก็ยังมีในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ ที่จะมีการสอบสวนเพิ่มเติม และสอบพย่านอีกหลายปาก โดยข้อหาที่ศาลออกหมายใน 2 กรณีนั้น ก็อาจจะมีการตั้งข้อหาเพิ่มเติมในภาย หลัง โดยเฉพาะในเรื่องของอาคาร เรื่องของการต่อเติม และจากการแจ้งของผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ซึ่งในกรณีนี้คงมีเรื่องของเวลาและเอกสารของทางร้านที่จะต้องนำมาชี้แจง เรื่องนี้ก็ถือเป็นอีกกรณีที่อยากได้รับการประกันตัวเพื่อออกมาดำเนินการให้ครบถ้วน
นายอนุชา กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีการเตรียมหาเงินสดหรือหลักทรัพย์ที่จะนำมาใช้ในการเยียวยาหรือดำเนินในเรื่องของคดีนั้น ตรงนี้ก็ถือว่าค่อนข้างลำบากพอสมควร อย่างไรก็ตามทางเราจะพยายามเคลียผู้เสียหายให้ได้มากที่สุดเพราะเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ป่วยเพิ่มเติม แม้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะยังอยู่ที่ 15 รายก็ตาม ส่วนที่ถามว่าจะเอาหลักทรัพย์ไปเอาเงินมาประกันตัวหรือชดเชยนั้นก็ถือว่าหนักใจเพราะทรัพย์สินอย่างที่ดินที่ของร้านนั้น ก็เป็นเพียงที่ดินเช่าไม่ใช่ที่ดินส่วนตัวแต่อย่างใด ขณะที่จะให้คนที่มีตำแหน่งทางราชการใหญ่มีระดับมาช่วยเหลือนั้นเราซึ่งจริง ๆ แล้วเราไม่ได้รู้จักใครมากมายก็เป็นเพียงพ่อค้า นักธุรกิจธรรมดา และทุกอย่างก็อยู่ในแวดวงครอบครัว พ่อแม่พี่น้องเท่านั้น ดังนั้นข่าวที่มีการนำเสนอออกไปก็อยากให้ช่วยดู เพื่อให้เกิดความถูกต้องด้วย