จากกรณีชายต่างชาติ อายุประมาณ 20-30 ปี สูงประมาณ 170 เซ็นติเมตร สวมเสื้อเชิ้ตสีดำ กางขายาวสีดำ แต่งกายดี ถือขวาถืออาวุธปืน กวัดแกว่งไปมา และ มือซ้ายถือ เลเซอร์ ส่องไปที่ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวคูเวต กว่า 10 คน โดยมีสั่งให้ไปนั่งเรียงกัน ริมระเบียงบนจุดชมวิว อีกทั้งยังใช้อาวุธจ่อไปที่ศีรษะ และ ยิงเลเซอร์จ่อไปที่นักท่องเที่ยวรายนึงอีกด้วย อีกทั้งบ้างช่วง มีการพูดภาษาอังกฤษว่า “ I catch you “ และ “ I want money “ ซึ่งแปลว่า “ กูจะจับมึง กูต้องการเงิน “ โดยวีดีโอที่ปรากฏนั้น เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าตรู่ บนจุดชมวิว เขาสทร. พัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จ.ชลบุรี พ.ต.ท. ท.พิชญะ เขียวเปลื้อง สว.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 ( ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ) พร้อมทีมชุดสืบสวน เข้าทำการควบคุมตัว นายแก้ว ชอ อายุ 25 ปี ชาวพม่าและ นาย ซีน อายุ 22 ปี ชาวพม่า ได้ที่ร้านสะดวกซื้อ ภายในซอยบงกชพัทยากลาง หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อม อาวุธปืนปลอม เป็นปืนไฟแซ็ค สีดำ อยู่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ ก่อนจะพาไปค้นบ้านเลขที่ 188/16 ห่างจากร้านสะดวกซื้อประมาณ 100 เมตร เพื่อไปเอาเสื้อผ้า ที่สวมใส่ ในวันที่เกิดเหตุ
สอบสวนเบื้องต้น นายแก้ว ชอ ให้การรับสารภาพ ผ่านนายจ้าง ว่า เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 1 ส.ค.66 พร้อมกับเพื่อนสัญชาติเดียวกัน อีก 1 คน คือ นายซีน อายุ 22 ปี ( ชาวพม่า ) ได้ชักชวนกันไปนั่งเล่นบริเวณจุดชมวิวบนเขา ส.ทร.พัทยาใต้ จากนั้นได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยว ชาวคูเวตประมาณ 10-15 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ขึ้นมาบนเขา แต่เมื่อเห็นว่าตนถือปืนไฟแซ็ค เพื่อจุดบุหรี่สูบ จึงเดินเข้ามาหา และ มีการพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษ โดยกลุ่มชาวคูเวต ได้อ้อนวอน ให้ถ่ายคลิปวิดีโอ โดยเป็นการสมมุติเหตุการณ์แนวแอ็คชั่น โดยให้ตน แสดงเป็นมาเฟียถือปืนจี้เอาเงิน และ บังคับให้นั่งเรียงริมระเบียงจุดชมวิว โดยมี นาย ซีน เพื่อนอีกคน ใช้โทรศัพท์มือถือ ของชาวคูเวตเป็นคนถ่าย จนเป็นภาพตามที่ปรากฏในคลิป เพื่อนำเอาไปลง โลกโซเซียล แต่ก็ไม่คาดคิดว่าคลิปดังกล่าวจะนำไปแชร์ต่อๆกันจำนวนมาก อีกทั้งยืนยันว่าไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่น เบื้องต้น ตำรวจนำตัว นายแก้ว ชอ และ นาย ซีน ชาวพม่า ทั้ง 2 คน ไปสอบสวนอีกครั้ง ส่วนชาวคูเวตกลุ่มในภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป