ความคืบหน้ากรณี คนร้ายก่อเหตุยิง นายณัฐภัทร บุญชาลี อายุ 28 ปี ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น ( นสพ.อธิปบูรพา และ สื่อออนไลน์ ) ของเมืองพัทยา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส กระสุนลูกซอง ( ลูกปลาย ) กว่า 40 นัด ฝังอยู่ในโหนกแก้ม และ ทำลายลูกตาด้านซ้าย จนสูญเสียการมองเห็น ต่อมา นายขวัญชัย ปานทอง หรือเป็ก อายุ 32 ปี มือปืนได้เดินทางเข้ามอบตัว หลังถูกออกหมายจับ โดยให้การยอมรับว่าปมเหตุมาจากเรื่อง ขี่รถจักรยานยนต์ปาดหน้ากัน และ ถูกแจกของลับ ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าของวันนี้ ( 14 ธ.ค.66 ) นายขวัญชัย ปานทอง หรือเป็ก อายุ 32 ปี ผู้ต้องหายังถูกควบคุมตัวห้องขัง และ รอการเบิกตัวออกมาสอบปากคำเพิ่มเติม ขณะที่ทีมสืบสวน ได้ตรวจสอบ ที่มาของอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ พร้อมกระสุนลูกซองเบอร์ 12 ที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยจากการสอบปากคำ ผู้ต้องหา ยืนยันว่า ซื้อมาจากเพื่อนเมื่อ 5 เดือนก่อน ส่วนสาเหตุที่พกมา เพื่อป้องกันตัว
ผู้สื่อข่าว ได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายอธิบดี บุญชารี เจ้าของ และ บรรณาธิการข่าว นสพ.อธิปบูรพา ซึ่งเป็นพ่อของคนเจ็บ ขณะเดินทางไปดูอาการลูกชายที่ โรงพยาบาล ชลบุรี พร้อมทั้งเปิดใจว่า ส่วนตัว ในเรื่องคดีไม่น่าจะใช่อย่างที่ ผู้ต้องหาให้การ เนื่องจากลักษณะการขี่รถไล่ตาม ก่อนจะประกบจ่อยิง ร่วมถึงการให้การว่า ถูกลูกชายขี่รถจักรยานยนต์ ปาดหน้าและทำท่ายึกๆยักๆใส่ รวมถึงโดนให้ของลับ ซึ่งคนเราหากว่ามีเรื่องก็ต้องระวังตัวนี้ขี่ประกบมาติดขนาดนั้น เพราะหากว่าคนที่เขม่นกันน่ะให้ของลับกันก็ต้องระวังตัวอันนี้รถตามจี้ประกบติดขนาดนั้นจะไม่รู้ตัวอะไรเป็นไปไม่ได้ และรถคันที่ย้อนกลับมารับไปขี่เลยไปแล้วยังย้อนกลับมารับคนยิงที่ทำตกคันที่ทำตกอีกมันผิดวิสัยทัศน์มันไม่ใช่ รถคันขาวมันเลยไปแล้วและรถคันที่ยิงน่ะทำคนที่ยิงตกแล้วรถคันนี้เขากลับมารับเป็นไปได้ยังไงมันไม่น่าเป็นไปได้
ส่วนทางด้านอาการของลูกชาย เข้าห้องผ่าตัดเมื่อวานตั้งแต่ 5 โมงเย็นผ่าตัด 6 ชั่วโมง แล้วเมื่อวานหมอไม่พูดอะไร แต่ให้ซื้อแปรงสีฟันยาสีฟันและแป้งไปให้ซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีและวันนี้เดี๋ยวจะขึ้นไปพบหมอเพื่อพูดคุยคาดว่าน่าจะได้รับข่าวดี เบื้องต้นตาซ้าย ลูกชายบอดแน่นอนแล้วเพราะว่ากระดูกรอบตาและแก้มนั้นแตกหมด ส่วนตาขวายังไม่ทราบว่าบอดหรือไม่ ขอให้ปลอดภัยส่วนเรื่องการบริจาคเลือดนั้นตนอยากขอผู้ใจบุญเลือดกรุ๊ป A ซึ่งน้องอิงค์ลูกชายตนนั้นต้องการจำนวนมากเป็นเลือดกรุ๊ปอื่นก็ได้ บริจาคได้ที่โรงพยาบาลชลบุรีทระบุว่าเป็นลูกน้องอิงค์นายณัฐภัทร บุญชารี อายุ 28 ปี ที่ โรงพยาบาลชลบุรี
ด้านน.ส.กรกมล ไชยคำ อายุ 28 ปี ภรรยาของนายณัฐภัทร บุญชาลี เปิดเผยว่าไม่ปักใจเชื่อในคำให้การผู้ก่อเหตุ กับเรื่องแค่นี้จะต้องหมายปองจะเอาชีวิตกัน ซึ่งก็อยากให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคดีนี้ ช่วยตรวจสอบเพิ่มเติม ในส่วนของกลุ่มผู้ก่อเหตุ และจากข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือ เพื่อหาชนวนเหตุที่แท้จริง
ในขณะที่น.ส.กรกมล ยังกล่าวทั้งน้ำตาอีกว่า สามีเป็นคนที่ต้องหาเงินคนเดียว ในการเลี้ยงแม่ที่กำลังป่วย และลูกอีกสองคนลูกสาวอายุ 7 ขวบ ลูกชายวัย 3 ขวบ และยังมีน้องอีกสองคน ซึ่งตนเองจะมีหน้าที่ดูแลลูก ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่กล้าให้ลูกรู้เพราะกลัวลูกจะเป็นภาพติดตา ทำได้เพียงบอกว่าพ่อไม่สบาย
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด บนเส้นทาง ถนนเพ็ชรตระกูล ตัดออก ถนนพัทยาเหนือสาย 3 ตั้งก่อนเกิดเหตุจนหลังเกิดเหตุ ปรากฏว่า วงจรปิด ตลอดเส้นทาง ไม่พบพฤติกรรม การขี่รถจักรยานยนต์ปาดหน้า หรือขี่ประกบพูดคุย ระหว่างมือปืน กับ คนเจ็บ มีเพียงช่วง รถจักรยานยนต์ของมือปืน กำลังขี่มาทางตรง ส่วนฝ่ายคนเจ็บ ขี่รถจักรยานยนต์ ออกมาจากร้านอาหาร แล้วเกือบจะเบียด กับรถจักรยานยนต์ของมือปืน แต่ถ้าหากดูจากกล้อง พบว่า ช่วงที่เกือบเบียดกัน ระยะห่าง ก็ประมาณ 1 เมตร จากนั้นรถทั้ง 2 คัน ก็ขี่ตามกันมาตามปกติ โดยไร้สัญญาณการทะเลาะวิวาทกัน จนมาถึงที่เกิดเหตุ ห่างจากร้านอาหารประมาณ 350 เมตร มือปืน ได้จะประกบทางด้านซ้าย มือขวาบิดคันเร่ง มือซ้ายชักอาวุธปืนขึ้นมาจ่อยิง นักข่าวท้องถิ่น จนได้รับบาดเจ็บ โดยเป็นยิงด้วยมือด้านซ้ายเพียงมือเดียว และฝ่ายคนเจ็บไม่ทันระวังตัว ส่วนมือปืนหลังก่อเหตุ ได้เร่งเครื่องขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี จนเพื่อนที่นั่งซ้อนท้ายมาร่วงตกกลางถนน โดยไม่หันมาสนใจใยดีเพื่อน ปล่อยให้เพื่อนนอนกลิ้งบนถนน ส่วนตัวเองขี่หนีไปหน้าตาเฉย ก่อนจะเข้ามอบตัวความรับความผิด