เมื่อเวลา 05.36 น.วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากนายนายสมพงษ์ เรืองขำ อายุ 43 ปี พ่อค้าข้าวมันไก่ ถึงพฤติกรรมของชาวต่างชาติ ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย กร่าง เบิ้ลรถส่งเสียงดัง มีการกระทำลักษณะข่มขู่ สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ที่อยู่ในละแวกดังกล่าว พร้อมทั้งนำคลิปวิดีโอที่สามารถบันทึกภาพ ขณะทำร้ายชาวต่างชาติจนได้รับบาดเจ็บสลบลงไปนอนกองพื้น มามอบให้ไว้เป็นหลักฐาน
โดยนายสมพงษ์ เรืองขำ อายุ 43 ปี เปิดเผยว่า ขณะที่ตนเองขายข้าวมันไก่อยู่นั้น สังเกตุเห็นชาวต่างชาติมีปัญหากัน ผู้ก่อเหตุลักษณะเป็นชาวตะวันออกกลาง ขับรถยนต์ปาเจโร่สีดำ มาด้วยกันนับสิบคน มีปัญหากับคู่กรณี เป็นชาวต่างชาติเหมือนกัน ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ชุลมุน ทำร้ายคู่กรณีจนสลบลงไปนอนกองกับพื้น ส่วนสาเหตุนั้นน่าจะเกิดจากเรื่องผู้หญิง ซึ่งผู้ก่อเหตุนั้น มักจะวนเวียนอยู่ในซอยนี้บ่อยๆ ซึ่งตนเองเชื่อว่าสาเหตุที่ทำเช่นนั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ ผู้ก่อเหตุรายนี้เคยมีปัญหากับตนเอง จากสาเหตุที่เข้ามาเคลียร์ปัญหาเรื่องรถชนแทนชาวต่างชาติคนอื่น แต่ไม่สามารถตกลงกับตนเองได้ ทำให้เกิดปัญหาคาใจกัน จึงชอบขับรถมาวนมองหน้าและเบิ้นเครื่องใส่เป็นประจำ
โดยนายสมพงษ์ ยัง นำคลิปวิดีโอที่สามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้มามอบให้สื่อไว้เป็นหลักฐานโดยวิดีโอดังกล่าวสามารถบันทึกภาพ ระหว่างคู่กรณีทั้งสองฝ่ายกำลังยื้อยุดฉุดกระชากผู้หญิงไทย ก่อนจะมีการวางมวยกัน โดยผู้ก่อเหตุล็อคคอต่อยคู่กรณีจนสลบเหมือด ลงไปนอนกองกับพื้น เมื่อมีพลเมืองดี จะเข้ามาห้าม ผู้ก่อเหตุได้ผลักไล่ห้ามใครเข้ามายุ่ง เมื่อผู้บาดเจ็บได้สติ จึงรีบวิ่งหลบหนีไป แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ยังพยายามเดินตาม โดยมีกลุ่มเพื่อนนับ 10 คน เดินตามคุมเชิง
ซึ่งในขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังบันทึกภาพอยู่นั้น ผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเชฟโรเลต ออฟตร้า สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหลัง เปิดกระจกแล้วยกมือทำท่าทางสื่อสารอะไรบางอย่างและมองมาทางนายสมพงษ์ และภรรยา เจ้าของร้านข้าวมันไก่ ก่อนจะวนกลับมาเบิ้ลเครื่องลั่นซอย สร้างควาวหวาดผวาให้กับคนที่อยู่ในละแวกดังกล่าวเป็นอย่างมาก
เบื้องต้นผู้บาดเจ็บได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองพัทยา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยเพียงว่าเป็นชาวคูเวต ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่ใบหน้า เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ก่อนจะนัดให้มาให้ปากคำอีกครั้ง พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นพื้นที่หาเบาะแส จากพยานแวดล้อมและกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวต่างชาติมาเฟียรายนี้มาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป