จากกรณี พบศพ นาย มอจตาบา กันบาริอาชาดี อายุ 64 ปี ชาวอิหร่าน และ เป็นเจ้าของร้านอาหาร
และ นางสาว ธนาภรณ์ พูนประโคน อายุ 49 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นภรรยาของชาวอิหร่าน ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมทิ้งศพหมกอยู่ในห้องนอนชั้น 2 ภายในร้าน บานู อิหร่าน เรสเตอร์รองท์ เลขที่ 20/132 หมู่ 10 ซอยเดย์ไนท์ พัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ ส่วนผู้ก่อเหตุสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นลูกจ้างชาวเมียนมาร์ ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น
ต่อมาเวลา 16.00 น. ( 12 ก.ค.67 ) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ไป บริเวณร้านอาหาร ซอยเพ็ชรตระกูล พัทยาเหนือ ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นจุดที่ คนร้าย นำรถจักรยานยนต์มาจอดทิ้ง แล้วขึ้นรถแท็กซี่หนีไป กทม. ก่อนจะต่อรถแท็กซี่ ไปยัง จ.นครปฐม ก่อนเข้ามอบตัวกับ ด่าน ตม.นครปฐม ในเรื่องหลบหนีเข้าเมือง ก่อนจะส่งตัวกลับประเทศเมียนมาร์ไปแล้ว
ผู้สื่อข่าว ได้พบกับ นายรังษี ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 46 ปี คนขับรถแท็กซี่ ซึ่งคนร้าย คือ นายจอ เมี๊ย อู ( MR.KYAW MYINT OO ) อายุ 23 ปี ชาวเมียร์มาร์ และ นางสาว อิ ดิเซมเบอร์ ( Miss Ei December ) อายุ 19 ปี ภรรยาชาวเมียนมาร์ ว่าจ้างไปที่ กรุงเทพฯ
นายรังษี เล่าว่า ช่วงเช้าของวันที่ 12 กรกฎาคม มีชาวพม่า 2 คน เป็นชาย 1 หญิง 1 น่าจะเป็นผัวเมียกัน ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา โดยรอบแรกได้ขี่ผ่านตนเองไปก่อน 1 ล้อม จากนั้นก็เลี้ยวกลับมา แล้วสอบถามตนเองว่า “ไปกรุงเทพหรือไม่” ซึ่งตนก็ตอบตกลงว่า “ไป” โดยตกลงราคาที่ 1,700 บาท จากนั้นฝ่ายชาย ได้ปล่อยให้ฝ่ายหญิงลง แล้วขนของใส่ท้ายรถของตนเอง แล้วขึ้นไปนั่งรอบรถ ส่วนผู้ชายก็บอกว่านำรถจักรยานยนต์ ไปเก็บก่อน ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที ฝ่ายชายก็วิ่งมาขึ้นรถ
พอขึ้นรถมา ตนสอบถามว่าจะไปไหน ผู้ชายก็บอกว่า ได้ขับเข้า กทม. ส่วนจะให้ไปส่งที่ไหน รอเพื่อนส่ง พิกัดจีพีอาร์เอส มาให้ ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถทั้งคู่มีอาการนิ่งเฉย และ นอนหลับไปตลอดทาง มีบางช่วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรใครบางคน และ พูดคุยเป็นภาษาพม่า จนไปถึงจุดพักรถมอเตอร์เวย์ บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ปรากฏว่าเพื่อนของชาวพม่า ได้ส่งพิกัดมาบอก ให้ไปส่งที่ซอยสาธุประดิษฐ์ 49/1 เขตยานนาวา กรุงเทพฯ ซึ่งจุดหมายที่ไปส่ง ส่วนใหญ่เป็นเขตชุมชน มีแต่อพาร์ตเม้นท์ ตรงจุดที่ปล่อยให้ผู้โดยสารลง มีคนพม่ามายืนรอรับ 1 คน จากนั้นตนก็กลับบ้านไปพัก
จนกระทั่งช่วงค่ำของเมื่อวาน (วันที่ 16 กรกฎาคม) มีตำรวจมาสอบถามข้อมูล เกี่ยวกับคนร้ายฆ่านายจ้างโหด พอเปิดรูปให้ดู ตอนก็ถึงกับตกใจ เพราะคนร้ายที่ก่อเหตุ เป็นผู้โดยสารที่ตนพาไปส่งที่กรุงเทพฯ ซึ่งหากว่าตนเองหากรู้ก่อนหน้านี้ ว่าเป็นคนร้ายฆ่าคนตาย คงพาไปส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และถือเป็นครั้งแรกในชีวิตขับรถแท็กซี่ ที่มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งภายหลังตำรวจมาสอบถามข้อมูล ตนเองก็อาสาพาตำรวจไปชี้จุดที่พา 2 ผัวเมียชาวเมียนมาร์ ไปลงที่กรุงเทพฯ เพื่อหาเบาะแสในการไล่ล่าติดตามจับกุมชาวเมียนมาร์โหดรายนี้ ส่วนสัมภาระของคนร้ายที่ตนช่วยขนขึ้นรถ ตนเองก็ไม่แน่ใจว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่มีกระเป๋าเสื้อผ้า และ กล่องกระดาษ โดยมีผ้าคลุมปิดกล่องไว้อย่างมิดชิด