ที่ ห้องประชุมสภาเมืองพัทยา ได้มีการจัดประชุมสภาเมืองพัทยา สมัยวิสามัญ สมัยที่หนึ่งครั้งที่ 2 ประจำปี 2567 โดยมี นายบรรลือ กุลละวณิชย์ ประธานสภาเมืองพัทยา ทำหน้าที่ เป็นประธานการประชุมสภาเมืองพัทยา พร้อมด้วย คณะผู้บริหารเมืองพัทยา หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และ สมาชิกสภาเมืองพัทยา เข้าร่วมประชุม
โดยในที่ประชุม นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา ได้เสนอญัตติ ขออนุมัติใช้จ่ายเงินสะสมเพื่อจ่ายสมทบค่าจ้างเหมาเอกชนในการเก็บขน ขนถ่าย และการกำจัดมูลฝอยชุมชนในเขตเมืองพัทยา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 1 โครง คือ ค่าจ้างเหมาเอกชนในการเก็บขน ขนถ่าย และกำจัดมูลฝอยชุมชนในเขตเมืองพัทยา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ระยะเวลา365 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2568 เพื่อจัดจ้างเอกชนเก็บขน ขนถ่าย และกำจัดมูลฝอยชุมชนในเขตเมืองพัทยา โดยกำหนดราคากลางจำนวนเงิน ทั้งสิ้น297,497,780 บาท (สองร้อยเก้าสิบเจ็ดล้านสี่
แสนเก้าหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยแปดสิบบาทถ้วน) แยกเป็น 1.ราคากลางงานเก็บขนมูลฝอยไม่เกิน 843.86บาทต่อตัน งบประมาณจำนวนเงิน 157,073,865 บาท (หนึ่งร้อยห้าสิบเจ็ดล้านเจ็ดหมื่นสามพันแปดร้อยหกสิบห้าบาทถ้วน) 2.ราคากลางงานขนถ่ายและกำจัดมูลฝอยไม่เกิน 725.89 บาทต่อต้น งบประมาณจำนวนเงิน
140,423,915 บาท (หนึ่งร้อยสี่สิบล้านสี่แสนสองหมื่นสามพันเก้าร้อยสิบห้าบาทถ้วน) โดยขอรับการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2568 จำนวนเงิน 153,497,380 บาท (หนึ่งร้อยห้าสิบสามล้านสี่แสนเก้าหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยแปดสิบบาทถ้วน) ซึ่งยังต้องใช้งบประมาณเพิ่มอีกเป็นจำนวนเงิน 144,000,000 บาท (หนึ่งร้อยสี่สิบสี่ล้านบาทถ้วน)
ด้านนายไพรวัลย์ อารมณ์ชื่น รองประธานสภาเมืองพัทยา ได้การสอบถามท้วงติงฝ่ายบริหารเกี่ยวการกับการใช้งบประมาณสะสมของเมืองพัทยา ว่า อยากให้ฝ่ายบริหารทบทวนการใช้งบประมาณสะสมอย่างรอบคอบ ด้วยเป็นห่วงว่าหากมีการนำเงินสะสมมาใช้ในโครงการจตัดเก็บขยะในทุก ๆปี และเมื่อการขอรับเงินอุดหนุนเฉพาะกิจจากรัฐบาลกลางมา ซึ่งยังไม่รู้ว่ารัฐบาลกลางจะจัดสรรเงินอุดหนุนมาให้เท่าไหร่ จึงเป็นห่วงว่าหากมีการนำเงินสะสมของเมืองพัทยามาใช้ในยามฉุกเฉินและหากมีโครงการอื่น ๆที่มีความจำเป็นจะต้องใช้งบประมาณสะสม หวั่นเมืองพัทยาจะไม่มีงบประมาณสะสมมาใช้ ในโครงการอื่น ๆ อย่างไรก็ตามในครั้งนี้สมาชิกสภาก็จะให้ผ่านอยู่แล้ว แต่อยากฝากบอกไปยังฝ่ายบริหารและสำนักสิ่งแวดล้อมว่าในปีต่อ ๆไป อย่ามาใช้เงินสะสมในเรื่องขยะเพียงอย่างเดียว จนทำให้เงินสะสมของเมืองพัทยาเหลือน้อยลงไปทุกปี ๆ มีแต่จ่ายไม่มีเงินเข้าสุดท้ายเงินสะสมของเมืองพัทยาก็จะหมด
ขณะที่สมาชิกสภาต่าง ๆพากันลุกขึ้นท้วงติงในการนำเงินสะสมมาใช้จ่ายเงินสะสมเพื่อจ่ายสมทบค่าจ้างเหมาเอกชนในการเก็บขน ขนถ่าย และการกำจัดมูลฝอยชุมชนในเขตเมืองพัทยา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 144,000,000 บาท (หนึ่งร้อยสี่สิบสี่ล้านบาทถ้วน) เนื่องจากมีความเป้นห่วงเงินสะสมจะหมดและไม่มีใช้ในโครงการที่มีความจำเป้นเร่งด่วนในอนาคตต่อไป
หลังจากนั้น นายมาโมช รองนายกเมืองพัทยา ผู้เสนอญัตติดังกล่าว ก็ได้ลุกขึ้นชี้แจงอีกครั้งเกี่ยวกับการกำจัดขยะและจัดทำโครงการเตาเผาขยะเมืองพัทยา แว่า เมืองพัทยามีแผนมาหลายปีมากที่จะมีการสร้างเตาเผาที่เขาไม้แก้ว โดยได้มีการศึกษาออกแบบไว้แต่การก่อสร้างเตาเผาขยะนั้นเมื่อขยะอยู่พื้นที่ไหนชาวบ้านและชุมชนก็จะไม่ตอบรับเตาเผาขยะเมืองพัทยา ทำให้เมืองพัทยาจึงมีการปิดบ่อขยะที่เขาไม้แก้ว ทั้งนี้เมืองพัทยาก็พยายามทุกวิถีทางในการลดการกำจัดขยะที่ถูกที่สุด ส่วนการที่เมืองพัทยาใช้งบประมาณในการจัดเก็บขยะสูงนั้นด้วยมีขยะในการจัดเก็บจำนวนมาก เฉลี่ยวันละ 500 ตัน ด้วยจำนวนขยะมีปริมาณที่มากทำให้มีความจำเป็นใช้งบประมาณในการจัดเก็บขยะสูง
ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ อนุมัติใช้จ่ายเงินสะสมเพื่อจ่ายสมทบค่าจ้างเหมาเอกชนในการเก็บขน ขนถ่าย และการกำจัดมูลฝอยชุมชนในเขตเมืองพัทยา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 144,000,000 บาท
