จากกรณีมีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่ง ( Premmin Ninchatchawanwong ) ซึ่งเธอเป็นผู้หหญิง ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ ขณะที่เธอกำลังขับรถเก๋ง จากนั้นถูกคนร้าย เป็นผู้ชาย 1 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังแล้วใช้ก้อนหินปาเข้าที่กระจกด้านรถเก๋งจนแตกเป็นรูโบ๋ พร้อมกับระบุข้อความว่า “นี่แหละค่ะนิสัยต่ำที่จริงใจเราคุยด้วยดีๆเรามาทางตรงแต่เค้ามาทางแยกด้วยความเร็วมากและตัดหน้าเราเราเห็นเราก็เบรคให้แต่กลับขี่ตามมาด่าแต่คำต่ำๆพอเราด่ากลับแค่คำเดียวหยิบก้อนหินและขี่ตามแล้วเราไปกันกับพี่สาว2คนจริงๆรู้สึกตกใจมากเพราะก้อนหินเฉียดหัวไปนิดเดียวและก้อนใหญ่พอสมควรมีปัญญาปาก็มีปัญญาชดใช้ด้วยนะคะเราไม่ได้บอกว่าเราไม่ผิดเราผิดที่ขับรถเร็วไปหน่อยตอนแรกกเราก็ยอมรับและขอโทษแล้วแต่เค้ามาด่าเราแรงมากจนเราต้องตอบโต้แต่คำไม่ได้รุนแรงอะไรแต่สิ่งที่ได้ตามภาพค่ะ….(ปาเสร็จแล้วรีบขี่รถหนี)”
ล่าสุดช่วงเย็นที่ผ่านมา ( 26 ก.ค.67 ) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบในเรื่องนี้ โดยพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ภายในซอยนาจอมเทียน 2 หมู่ 1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับผู้เสียหายผ่านทางโทรศัพท์ ทราบชื่อว่า นางสาวมิน นามสมมุติ อายุ 21 ปี และ นางสาวเมย์ นามสมมุติ อายุ 27 ปี ซึ่งเธอทั้ง 2 คนเป็นพี่น้องกัน พร้อมเล่าให้ฟังว่า เธอกับพี่สาวเป็นนักท่องเที่ยว โดยเมื่อเวลาประมาณ 14:00 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม ขณะที่กำลังขับรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เทา จษ 2262 ชลบุรี เพื่อกลับโรงแรมที่พักย่านชายหาดจอมเทียน พอมาถึงบริเวณสี่แยก ถนนจอมเทียนสาย 2 ขณะที่ตนเองขับรถมาทางตรง ปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์ ขี่พุ่งออกมาตรงกลางสี่แยก จึงทำให้ตนต้องเบรกกระทันหัน ส่วนฝ่ายรถจักรยานยนต์ก็เบรคหยุดชะงักอยู่กลางสี่แยก โดยมีผู้ชาย อายุประมาณ 35 ถึง 40 ปี เป็นคนขี่ และหันหน้ามามองรถของตนด้วยสายตาเคียดแค้น ตอนนั้นตนเองคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะไม่ได้มีการบีบแตร หรือ แสดงกิริยาไม่ดีใส่ ตนเองกับพี่สาว จึงขับรถออกมาตามปกติ
พอขับรถออกมาจากสี่แยกได้ประมาณ 200 เมตร ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้ขี่ ตามมาประกบข้าง และ เคาะกระจก-รถรถปาดหน้า บังคับให้จอดลงข้างทาง พอตนเองยอมจอดรถ และลดกระจกลงเพื่อจะพูดคุยกับชายดังกล่าว แต่ปรากฏว่า ถูกชายดังกล่าวพูดจาหยาบคายและด่าเสียๆหายๆ โดยที่ตนไม่ทันได้ตอบโต้ ด้วยความที่ไม่อยากมีปัญหา จึงปิดกระจกรถ และขับรถหนี แต่ก็ยังถูกชายดังกล่าว ขี่รถจักรยานยนต์ตามมาจากทางด้านหลัง และใช้ก้อนหิน ขนาดเท่ากำปั้น ใส่เข้าที่กระจกด้านหลัง จนแตกเป็นรูโบ๋ แถมก้อนหินยังเฉี่ยวผ่านศรีษะเฉียดไปนิดเดียว ส่วนฝ่ายคู่กรณีหลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์เลี้ยวกลับ แล้ว ขี่หลบหนีไปทันที
ส่วนตัว ยอมรับว่ากลัวและตกใจมาก ทั้งที่ฝ่ายคู่กรณีก็รู้ว่าตนทั้ง 2 คนเป็นผู้หญิง ซึ่งในวันนั้นตนเองก็ยอมรับว่าขับรถเร็ว อยู่ที่ประมาณ 60 กม./ ชม. และไม่มีเจตนาจะทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น แต่ก็ยังถูกชายดังกล่าว ซึ่งไม่รู้ว่าไปโมโหอะไรมาก่อนหน้านี้หรือไม่ ตามมาก่อเหตุดังกล่าว ในเบื้องต้นมีการเข้าแจ้งความไว้ที่สภ.นาจอมเทียน แล้ว
ผู้สื่อข่าวได้ ติดต่อไปสอบถาม ความคืบหน้าของคดีในเรื่องนี้กับท่าน พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.นาจอมเทียน เบื้องต้นได้รับการเปิดเผยว่า ในคดีนี้อยู่ระหว่างส่งเจ้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวและตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งมีการนำภาพ ที่ผู้เสียหายสามารถบันทึกภาพได้ ไปทำการตรวจสอบ เพื่อหาตำหนิรูปพรรณของคนร้าย โดยเชื่อว่าจะได้ตัวผู้ก่อเหตุในเร็ววันนี้….
